นิตยสารฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ประเทศไทย ฉบับเดือนมีนาคมนี้ เฉลิมฉลองครบรอบสองทศวรรษด้วยการนำเสนอภาพลักษณ์อันงดงามของนักแสดงสาว ‘เบ็คกี้ – รีเบคก้า แพทรีเชีย อาร์มสตรอง’ ที่ถ่ายทอดลุคสุดโดดเด่นจากคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 จาก CHANEL ซึ่งสะท้อนถึงความสง่างามและความอิสระ ผ่านการออกแบบที่เน้นความเคลื่อนไหวและบางเบา โดยมีการใช้โทนสีขาว สีพาสเทล และสีสดใส รวมถึงสีมิดไนท์บลูและสีดำ ไล่ลำดับของซิลูเอตตามช่วงเวลาจากกลางวันจวบจนกลางคืน ทำให้คอลเลกชั่นนี้ไม่เพียงแต่โดดเด่นในด้านดีไซน์แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นตัวตนของผู้หญิงที่มีเสรีภาพและความงามอย่างแท้จริง


อีกหนึ่งแอคเซสเซอรี่ชิ้นเด่นที่เป็นที่น่าจับตาในคอลเลกชั่นนี้ก็คือ กระเป๋า CHANEL 25 ที่เปิดตัวในปี 2025 กับดีไซน์ทันสมัยและหรูหรา มาพร้อมขนาดกลางและใหญ่ รวมถึงรุ่นคลัทช์ โดดเด่นด้วยกระเป๋าข้างขนาดใหญ่สองใบและฮาร์ดแวร์สีทองที่ทำให้ดูหรูหราเหมาะสำหรับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน


นักแสดงสาว ‘เบ็คกี้ – รีเบคก้า แพทรีเชีย อาร์มสตรอง’ ได้ถ่ายทอดความเป็นอิสระและเสรีภาพของผู้หญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบผ่านการถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ตในครั้งนี้ ผลงานการถ่ายภาพของเธอไม่เพียงแต่โดดเด่นและเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้างเท่านั้น แต่ทัศนคติจากบทสัมภาษณ์ที่เธอได้พูดคุยกับ ฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ประเทศไทย ยังสะท้อนถึงความเป็นเด็กสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวก พร้อมที่จะมอบรอยยิ้มและความสุขให้แก่ทุกคนที่ได้พบเจออยู่เสมอ

สาวราศีพิจิกคนนี้มีเลข 5 นำโชค ซึ่งกาเบรียล ชาเนล มีเลข 5 เป็นเลขนำโชคเช่นกัน คุณเคยคิดไหมว่าบางอย่างในโลกนี้ที่ถูกกำหนดอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“เบ็คจะมี ‘Lucky Number’ ของตัวเองที่จะใช้ตลอดคือเลข 5 เพราะคือเลขวันเกิด รู้สึกว่าตัวเรามีโชคกับเลข 5 ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมากกับตัวเลขนี้ อย่างเคยใบ้ลอตเตอรี่ (หัวเราะ) ก็เลข 5 ซึ่งถูกด้วย หรือมีช่วงนึงที่เห็นเลขนี้บ่อย ไปไหนจะเห็นทะเบียนเลข 5 หรือว่าชั้น 5 เป็นต้นนะคะ ถ้าถามในมุมความเชื่อหรือศรัทธา ส่วนตัวแล้วก่อนที่จะทำอะไรสำคัญๆ ชิ้นใหญ่ๆ จะชอบไปทำบุญ รู้สึกว่าทำแล้วสบายใจและผลลัพธ์ส่วนใหญ่จะออกมาดีมาก จริงๆ ก็อยากทำบุญตลอดเวลานะคะ แต่บางทีไม่มีเวลา ซึ่งตั้งแต่เด็กจะทำบุญตลอด ตักบาตร เข้าวัด คุณแม่จะสอนตั้งแต่เด็กให้ทำประจำ”
เบ็คกี้ยังได้เล่าต่อถึงสามคำที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง ซึ่งทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเข้าไปอยู่ในใจของคนรอบข้างและแฟนคลับได้ขนาดนี้ “คำแรกคือ ‘Sunshine’ เพราะจะคอยส่งยิ้มให้ทุกคนรอบตัวตลอดเวลา แม้ว่าข้างในจะรู้สึกยังไงก็ตาม อยากให้คนที่อยู่รอบๆ แฮปปี้ สบายใจ แล้วก็รู้สีกดีตลอดเวลาค่ะ อยากสร้างพลังดีๆ ส่งพลังงานบวกให้เยอะที่สุด ตามคำว่า ‘Sunshine’ เลย เบ็คจะเป็น ‘Sun’ ให้ทุกคน”
“คำที่สอง ‘Hard Working’ จริงๆ ทุกคนก็ ‘Hard working’ ในแบบของตัวเอง แต่แค่รู้สึกว่าตัวเองก็ (หัวเราะ) Hard Working มากพอสมควร ด้วยความที่ตัวเองเริ่มทำงานจากอายุน้อย การเข้าวงการบันเทิงไปด้วยและเรียนไปด้วยไม่ง่าย เรียนหนักมากตอนนี้จะปี 4 แล้ว ใกล้จบละคะอีกนิดนึง เบ็คพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทุกคนมีถามว่าทำได้ยังไง บาลานซ์ได้ยังไง ไม่เหนื่อยหรอ ยิ่งเวลาที่ไม่สบาย ตัวเองจะรู้สึกท้อมาก กังวลว่าจะทำให้งานไปต่อไม่ได้ หรือทำให้ทุกคนต้องหยุดรอ ซึ่งเบ็คก็ไม่ยอมแพ้ พยายามหาทุกวิธีทางที่ทำให้ตัวเองแข็งแรงขึ้นเพื่อสู้กับงานนั้น จะเต็มที่ และ ‘Hard Working’ ในทุกๆ พาร์ตแน่นอน”
“คำที่สาม Mysterious ก็เป็นไปได้ เป็นคนมีหลายคาแรคเตอร์ หลายมุม แล้วแต่ว่าสนิทกันแค่ไหน เช่น บางทีใครมาเจอแรกๆ ก็จะบอกว่าทำไมนิ่ง ไม่พูดเลย แต่จริงๆ คือแค่ยังไม่ได้รู้จักกันมากพอที่จะให้ใจ ก็จะต้องใช้เวลา ซึ่งถ้าได้มารู้จักกันจริงๆ จะรู้ว่าเบ็คมีหลายมุมมาก แล้วก็มีอะไรที่น่าจะได้เรียนรู้กันใหม่ๆ ทุกๆ ครั้ง” (ยิ้ม)

“ในมุมกลับกันที่คนอื่นมองมาที่เบ็ค คิดว่าเขาน่าจะเห็นว่าเราเป็นคนที่มีรอยยิ้มตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทั้งเพื่อนและแฟนคลับจะทักเสมอว่ายิ้มตลอดเลย แม้ทำงานมากี่งานก็ยิ้มอยู่อย่างงั้น (หัวเราะ) เพราะสิ่งที่เราอยากส่งออกไปคือพลังงานดีๆ ซึ่งข้างในไม่รู้ว่ายิ้มอยู่หรือเปล่านะ (หัวเราะ) แฟนคลับเขาก็ช่วยเติม ‘Angle’ ให้หนูนะ อย่างเมื่อวานที่รู้สึกเหนื่อยมาก พอเราเจอเขา เขามีเสียงเชียร์ให้ ส่งพลังคอยซัพพอร์ตเรา เขาเติมให้เราได้มากๆ ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ”
“ถ้าให้จินตนาการว่ายืนอยู่ตรงกลางห้องโถงแล้วมีคนประมาณ 100 คน อยู่ตรงนั้น อยากบอกอะไรกับพวกเขาบ้างเหรอคะ หนูคงบอกว่าเหนื่อยได้ไม่เป็นไร ทุกคนไม่มีใครไม่เหนื่อยหรอก แล้วก็ร้องไห้ได้เหมือนกัน ไม่ไหวก็ร้องไห้ออกมา เราอยู่ตรงนี้ อยากพูดอะไร พร้อมรับฟังเสมอ เบ็คอาจจะเป็นคนที่พูดไม่ได้เก่งขนาดนั้น แต่เป็นคนที่ฟังเก่งมาก แล้วก็พยายามที่จะให้คำแนะนำที่ดีที่สุด แล้วอยากบอกว่าทุกอย่างมีวันพรุ่งนี้ ถ้าวันนี้ยังไม่ได้อย่างที่คิดที่ต้องดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังไงก็มีวันพรุ่งนี้ที่แก้ตัวหรือเริ่มใหม่ได้ อยากบอกทุกคนว่าโอบกอดนะคะ เก่งมากๆ แล้ว แล้วก็ต้องชมตัวเองบ้าง รักตัวเองให้มากๆ เพราะสุดท้ายแล้วบนโลกใบนี้ ไม่มีใครรักเราได้เท่ากับเรารักตัวเอง แคร์ตัวเองเยอะๆ แล้วมีความสุขในทุกๆ วัน เพราะชีวิตสั้นจริงๆ”
“ในวันที่เบ็ครู้สึกท้อ ก็จะคิดว่าเราเองก็ผ่านอะไรมาเยอะมาก ๆ เยอะแบบไม่รู้ว่าผ่านมาได้อย่างไร แต่ละเรื่องแต่ละราวมีทั้งเรื่องที่คนรู้กับไม่รู้เยอะไปหมด เลยรู้สึกว่าชมตัวเองแหละดีแล้ว แค่บอกตัวเองว่าวันนี้เก่งมากๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะดีขึ้นเอง การดูแลความรู้สึกตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีใครดูแลได้ดีเท่าตัวเราเอง”
“ในความที่เป็นศิลปินระดับโกลบอล การมองโลกกับความรับผิดชอบในชีวิตประจำวันก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนมากขึ้น จากเดิมที่เป็นคนคิดเยอะอยู่แล้ว (ยิ้ม) ทุกการกระทำของเรามีคนมองตลอดเวลา เป็นปกติมีทั้งคนที่รักกับคนที่ไม่ชอบเยอะเลยด้วย ซึ่งเราใช้เวลานานมากกับการทำความเข้าใจว่าทำไมเขาไม่ชอบเรา ซึ่งก็ไม่ได้คำตอบนะ เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถจัดการความรู้สึกใครได้ แต่แค่ต้องไม่ล้ำเส้นกัน ทุกวันเราก็พยายามทำให้ตัวเองดีขึ้น อะไรที่ไม่เก่งก็จะพยายามให้เก่งขึ้น เช่น ไม่ถนัดเต้นก็พยายามหาเวลาไปเรียนเพื่อวันงานพอแฟนๆ มาดูจะได้ภูมิใจ ตอนนี้มีเรียนร้องเพลง การแสดงเพิ่มเติมเพื่อจะเล่นได้หลายๆ บทบาท พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ มีแฟนๆ เยอะขึ้น ยิ่งโกลบอลแล้วด้วย รู้สึกว่าอยากทำให้เขาภูมิใจ ภูมิใจที่เขามาตาม ภูมิใจที่เขามารัก และก็อยากภูมิใจในตัวเองเหมือนกัน เราอยาก Better myself for me and the people that love me”
“เวลาเจอคำพูดแย่ๆ ซึ่งเจอบ่อยเลย เป็นปกติเมื่อคุณอยู่ในสปอร์ตไลท์ จะมีคำพูดใดๆ อะไรเยอะแยะไปหมด ยากมากที่จะไม่หยิบมาคิด มาใส่ใจ เคยมีทั้งพูดเรื่องรูปร่าง การแต่งตัว มีช่วงนึงรู้สึกเสียใจมากๆ เรารู้จุดบกพร่องของตัวเองอยู่แล้ว แต่พอมีคนอื่นมาพูดอีกก็ยิ่งเสียใจ ซึ่งถ้าเป็นคำพูดที่ติเพื่อก่อ ยอมรับฟังเสมอ แต่ถ้าอะไรที่พูดแล้วแค่ต้องการให้รู้สึกไม่ดี ไม่พูดดีกว่าไหม จนตอนนี้เบ็ครู้สึกว่าเราค่อยๆ เติบโตที่จะเรียนรู้ในการดูแลความรู้สึกของตัวเองมากๆ ว่าอย่าให้ใครมาทำร้ายความมั่นใจของเรา เพราะความมั่นใจของเรา เราต้องสร้างด้วยตัวเอง อะไรที่เราใส่แล้วมั่นใจ แต่งหน้าแล้วเราสวย หรือไม่แต่งก็สวย รู้สึกว่านั่นแหละคือสิ่งที่จะ ‘Shine’ ออกมาเวลาเรามั่นใจ ซึ่งในมุมมองแฟชั่นสำหรับเบ็ค ก็คือการสะท้อนความมั่นใจของผู้หญิงยุคนี้ เวลาเราแต่งตัวออกไปข้างนอก ไปออกงาน เราต้องมั่นใจ ถ่ายงานก็ต้องมั่นใจ ทุกคนจะมีสไตล์ลิ่งที่ไม่เหมือนกัน หรือความสบายใจของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน คนนึงอาจจะชอบสไตล์เรียบๆ คนนึงอาจจะชอบเท่ๆ อย่างเบ็คชอบแต่งตัวทุกสไตล์ ชอบลองอะไรใหม่ๆ ถ้าใครตามเบ็คจะเห็นว่าแต่ละสไตล์ลิ่งไม่เหมือนกัน (หัวเราะ) ไม่ว่าจะเป็นหน้า ผม ชุด ก็ตาม เบ็คสนุกกับการแต่งตัว ถ้าคุณมีความสุข ความมั่นใจจะส่งออกมาเอง แค่นั้นเลย”




มาถึงการสัมผัสมุมมองในเรื่องบทบาทที่อยากเล่นในอนาคต ความรักในการออกกำลังกาย รวมไปถึงความฝันที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่เธอชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก “Princess Diaries ค่ะ (หัวเราะ) ชอบดูตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งถ้าต้องเลือกตัวละครที่อยากสวมบทบาท อยากเป็น ‘Mia’ ค่ะ ซึ่งแอนน์ แฮททาเวย์ ทำไว้ดีมาก เราเป็นแฟนคลับแอนน์ อยู่แล้วด้วย เขาเก่งมากไม่ว่าเล่นบทบาทไหน ทำให้เราอยากโตมาเป็นนักแสดงแบบนั้น รู้สึกว่าถ้าได้เล่นก็จะดีมาก ถ้าสมมุติมีการหยิบมารีเมค ก็อยากลองดูค่ะ ความรู้สึกอะไรแบบนี้น่าจะใช่ (ยิ้ม) อีกบทบาทที่อยากเล่นมากที่สุดน่าจะเป็นบทแอคชั่น เคยได้เล่นนิดๆ ในยูเรนัส 2324 ซึ่งเราไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ยังแบบได้อีกๆ สนุกมากกว่าด้วยซ้ำ แม้ว่าคนข้างๆ ดูหมดสภาพแล้ว ซึ่งทุนเดิมเบ็คชอบออกกำลังกาย ต่อยมวย เอเนอร์จี้เลยจะเยอะหน่อย แต่พอตารางเวลาแน่นแบบวิ่ง 2-3 งานในวันนึง แล้วไหนต้องเปลี่ยนสไตล์แต่งหน้าทำผมอีก กลับถึงบ้านก็ต้องรีบนอนเพื่อรีสตาร์ทตัวเองให้พร้อมอีกวัน การออกกำลังกายเลยไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าที่ควร แต่จะบอกตัวเองเสมอว่าต้องมีวินัย อย่างการเรียนสำคัญมาก ไม่ว่าจะเหนื่อยยังไงก็ต้องไปเรียน จะไม่ให้ท้ายตัวเอง เบ็คมีความคิดที่ว่า ‘No pain, No gain’ อะไรที่ได้มาง่ายๆ ไม่ได้รู้สึกประสบความสำเร็จ ต้องผ่านอะไรที่ท้าทายตัวเองแล้วทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“อาชีพนักแสดงได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายคน ตอนแรกไม่เคยเข้าใจเลยว่าเราจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใคร ในเมื่อตัวเองบางทีก็มีเรื่องผิดพลาด ซึ่งเบ็คจะได้ยินคำนี้บ่อยมากว่าเพราะมีเบ็คอยู่ตรงนี้ พอได้ยินประโยคนี้ น้ำตาซึมเลย เขาบอกว่าแค่ได้เห็นรอยยิ้มเรา ก็รู้สึกว่ามีชีวิตต่อไปได้ คงเป็นความรู้สึกต่างคนต่างเหนื่อยจากอะไรมา พอได้มาเจอกันต่างคนต่างให้กำลังใจกันและกัน แม้ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็จะผ่านไปได้”
“เคยมีพี่คนนึงไม่บอกชื่อละกัน เขาเคยพูดว่า อยู่วงการต้องเข้มแข็ง จะมีคำพูดใดๆ เข้ามา จะมีคนที่ไม่ชอบเรา คนที่อาจจะทำร้ายเราในเชิงคำพูด ต้องเข้มแข็งเพราะอยู่ในวงการนี้ไม่ง่าย ซึ่งเป็นคำพูดที่เบ็คจำได้ไม่ลืมและย้อนกลับมาคิดตลอดเวลาเจอเหตุการณ์อะไรหนักๆ ซึ่งถ้าใครได้เจออะไรหนักๆ มา ขอส่งกำลังใจให้นะคะ เดี๋ยวสิ่งเหล่านั้นก็จะผ่านไป กลับไปที่เบ็คบอกว่า รักตัวเองเยอะๆ แคร์ตัวเองเยอะๆ แล้วก็ทำตัวเองให้ดี แล้วรู้สึกภูมิใจในตัวเองก็พอแล้ว”