“ทิสโซต์” (Tissot) แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1853 โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 170 ปี ด้วยความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นาฬิกาประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่ความทันสมัยอย่างมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้การยอมรับในแวดวงกีฬา ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาที่มีเทคโนโลยีระบบจับเวลาด้านความเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด
โดยภายในงานยังได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้ตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล, พลอยพยัพ ศรีกาญจนา, ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล อุบลเดชประชารักษ์ และอีกมากมาย พร้อมกันนี้ยังได้นักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่าง นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์ ร่วมถ่ายทอดลุคสุดเท่ผ่านเรือนเวลาในคอลเลกชั่นนี้ด้วย
สำหรับคอลเลกชั่น “ซีสตาร์ 1000 40 มม. พาวเวอร์เมติก 80” (Seastar 1000 40mm Powermatic 80) จากตระกูล “ซีสตาร์” (Seastar) ที่มีต้นกำเนิดในปี ค.ศ. 1952 นับเป็นคอลเลกชั่นนาฬิกากันน้ำที่มีการผนึกกันอากาศที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนๆ และชวนระลึกถึงสิ่งหนึ่งขึ้นมาโดยอัตโนมัตินั่นคือ Seastar ชื่อนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าในปี 1952 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานาฬิกาเรือนนี้ก็กลายเป็นรุ่นหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ ทิสโซต์ (Tissot) โดยคอลเลกชั่น “ซีสตาร์” (Seastar) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการนำเสนอรุ่นเรือนเวลาสำหรับทั้งชายและหญิง เพราะเป็นนาฬิกาในอุดมคติสำหรับผู้ชื่นชอบการเล่นกีฬาและนักดำน้ำ จึงให้กำเนิดผลิตภัณฑ์ตระกูลใหญ่ที่ประกอบด้วย ‘Seastar T12’ เปิดตัวในปี ค.ศ. 1956 ที่รับประกันการกันน้ำได้ที่ความดันสูงถึง 12 บาร์ หรือเท่ากับน้ำลึก 120 เมตร, รุ่น ‘Seastar Seven’ ออกแบบมาให้มีตัวเรือนที่บางลงด้วยระบบโมโนค็อก (Monocoque) ได้รับจดทะเบียนสิทธิบัตรในปี ค.ศ 1963 รวมถึง ‘Seastar Quartz’ ที่ผลิตขึ้นในปี ค.ศ 1978 เรียกได้ว่าคอลเลกชั่น Seastar ได้รับการพัฒนาและกลายเป็นนาฬิกานักดำน้ำที่มีดีไซน์หลากหลายรูปแบบและน่าตื่นเต้น
ล่าสุดในปี 2024 นี้ ทิสโซต์ (Tissot) พร้อมเปิดตัวเรือนเวลา “ซีสตาร์ 1000 40 มม. พาวเวอร์เมติก 80” (Seastar 1000 40mm Powermatic 80) นำเสนอหน้าปัดที่เรียบง่ายในดีไซน์ 5 รุ่นย่อยที่มาพร้อมกับตัวเรือนขนาดกลางที่ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น โดยมีขนาด 40 มิลลิเมตร และขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติพาวเวอร์เมติก 80 (Powermatic 80) โดยทุกรุ่นมีหน้าปัดโลหะตกแต่งด้วยลายแปรงแนวตั้ง และเพิ่มมิติด้วยการไล่เฉดสีไปยังบริเวณขอบนาฬิกาให้เป็นสีดำเข้ม และแต่ละรุ่นจะมีขอบเบเซิลแบบหมุนทิศทางเดียวในโทนสีดำเข้มใช้ในการจับเวลา โดยมี 2 รุ่นย่อย ที่มีตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีล แตกต่างกันที่สีของหน้าปัด โดยรุ่นหนึ่งมีหน้าปัดโทนสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และหน้าปัดโทนสีเทาไล่ระดับสี ส่วนอีกรุ่นในคอลเลกชั่นนี้เป็นรุ่นที่มีดีไซน์แบบสองสีที่ให้รูปลักษณ์ที่โดดเด่น โดยมีการแต่งบริเวณขอบเบเซิลเคลือบ PVD สีเหลืองทองพร้อมวงแหวนสีดำ เข้ากันได้ดีกับสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลแบบ 2 กษัตริย์ สีทองคู่กับสีเงิน และ 2 รุ่นสุดท้ายมาพร้อมกับรูปลักษณ์ของตัวเรือนที่ค่อนข้างหายากสำหรับในคอลเลกชั่น ซีสตาร์ (Seastar) โดยจะมีตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำทั้งเรือน รุ่นหนึ่งมาพร้อมกับหน้าปัดโลหะขัดลายสีน้ำเงินเข้าคู่กับสายนาฬิกาซิลิโคนสีดำทรอปิก ในขณะที่อีกรุ่นประดับด้วยหน้าปัดโลหะขัดลายสีเทาเข้าคู่สายนาฬิกาสแตนเลสสตีลสีดำเมทัลลิกให้ลุคที่ดูน่าค้นหา โดยทุกตัวเรือนจะมีเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova ®) ช่วยให้อ่านค่าในยามคืนหรือบริเวณที่แสงน้อย รวมถึงขณะอยู่ใต้น้ำลึก ทุกตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกพาวเวอร์เมติก 80 (Powermatic 80) พร้อมบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เสริมความแข็งแรงทนทานต่อสนามแม่เหล็ก พร้อมความสามารถในการกันน้ำลึกสูงสุด 30 บาร์ หรือ 300 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาได้ตามความสะดวกในการใช้งาน ทั้งสายสแตนเลสสตีลแบบคลาสสิก และสายนาฬิกาซิลิโคนสีดำทรอปิก ไม่ว่าจะออกไปผจญภัยในมหาสมุทร เพลิดเพลินกับการพักผ่อนริมชายหาด หรือเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจ เรือนเวลาจากคอลเลกชั่น “ซีสตาร์” (Seastar) จะช่วยเสริมลุคเติมความมั่นใจในทุกโอกาส