MB& F และ PMT The Hour Glass เชิญชวนนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา รวมทั้งผู้ที่หลงใหลในยานยนต์ ร่วมสัมผัสความงดงามแห่งศิลปะและนวัตกรรมอันล้ำสมัย จากโลกแห่งนาฬิกาที่น่าหลงใหลและความตื่นเต้นเร้าใจจากโลกแห่งยนตรกรรม พร้อมร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีความคิดสร้างสรรค์อันไร้กรอบเหนือกฎเกณ์ของ MB&F ในงานนิทรรศการ ‘The Evolution of Legacy Machines’ & ‘Petrolheads’ ในวันที่ 19-27 เมษายน 2025 ณ PMT The Hour Glass ชั้น M สยามพารากอน
MB&F หรือ Maximilian Büsser & Friends ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 และกล่าวได้ว่าเป็นห้องปฏิบัติการเครื่องจักรกลบอกเวลาที่มาพร้อมแนวคิดอันล้ำสมัยแห่งแรกของโลก ความตั้งใจของ Maximilian Büsser ผู้ก่อตั้ง คือการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม ให้กลายเป็นศิลปะจลศาสตร์ (kinetic art) หรือผลงานศิลปะบอกเวลาที่เคลื่อนไหวได้แบบสามมิติ MB&F จึงร่วมมือกับบรรดาพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์และศิลปะแขนงต่างๆ ที่มีมุมมองและแนวคิดเดียวกัน สร้างสรรค์ผลงานหลายต่อหลายรุ่น Horological Machines จึงเป็นคอลเลกชั่นแห่งนวัตกรรมและความคิดนอกกรอบ สะท้อนตัวตนของ MB&F ที่มีความขบถ เหนือกฎเกณฑ์ อยู่ในทุกอณู ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของกลไก ที่ผ่านการขัดแต่งและออกแบบจัดวางอย่างชาญฉลาด หรือตัวเรือนที่เป็นเสมือนงานประติมากรรมสามมิติชั้นสูง ด้วยแรงบันดาลใจดวงดาวและอวกาศ รถซูเปอร์คาร์ และสิ่งมีชีวิตรอบตัวๆ ขณะที่คอลเลกชั่น Legacy Machines ซึ่งเปิดตัวในปี 2011 นั้น นำความเป็นเลิศและเสน่ห์เฉพาะตัวของการประดิษฐ์นาฬิกาในอดีต มาผนวกกับนวัตกรรมใหม่ๆ จนทำให้นาฬิกาที่มีตัวเรือนทรงกลมดูสวยคลาสสิกในคอลเลกชั่นนี้ เป็นผลงานชิ้นเอกที่ให้เกียรติและยกย่องนักประดิษฐ์นาฬิกาในอดีต และด้วยสองขั้วแห่งความแตกต่างทว่ายังเชื่อมโยงสอดคล้อง ทั้งจักรกลร่วมสมัยที่ล้ำหน้าเหนือใคร และผลงานศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์นี้เอง ที่ทำให้ MB&F ยืนหยัดท้าทายทุกขีดจำกัดทางเทคนิคและศิลปะในอุตสาหกรรมนาฬิกาได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ส่วนแรกของนิทรรศการที่ชื่อว่า ‘The Evolution of Legacy Machines’ เน้นย้ำถึงการที่ MB&F ได้นำศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาแบบคลาสสิกมาพัฒนาด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ผ่านการบอกเล่าถึงวิวัฒนาการของนาฬิกาในคอลเลกชั่น Legacy Machines ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LM Sequential EVO ซึ่งคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ Aiguille d’Or หรือ นาฬิกายอดเยี่ยมแห่งปี จากเวทีประกาศรางวัลอันในอุตสาหกรรมนาฬิกาอย่าง Grand Prix d’Horlogerie de Genève (GPHG) ในปี 2022 Legacy Machines เป็นตัวแทนของการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างประเพณีดั้งเดิมและศิลปะอันล้ำสมัย มอบนิยามใหม่ให้กับความสง่างามเหนือกาลเวลาในศาสตร์การประดิษฐ์เครื่องบ่งบอกเวลา พร้อมๆ กับเชื่อมโยงแรงบันดาลใจจากอดีตเข้ากับขุมพลังความคิดสร้างสรรค์ในยุคปัจจุบัน
อีกส่วนของนิทรรศการที่ชื่อว่า ‘Petrolheads’ นั้น ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของ MB&F กับโลกแห่งยานยนต์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความฝันในวัยเด็กของ Maximilian Büsser ที่อยากเป็นนักออกแบบรถยนต์ ผนวกกับความหลงใหลในรถแข่งวินเทจอย่างลึกซึ้งของ Serge Kriknoff หัวหน้าฝ่ายค้นคว้าวิจัยและการผลิตของ MB&F ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในผลงานชิ้นเอกที่นำมาจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาที่เปี่ยมไปด้วยสุนทรียศาสตร์ของยนตรกรรมอย่าง HM5 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรถซูเปอร์คาร์ยุค 1970; HMX ที่สดุดีให้กับการออกแบบอันโดดเด่นของ Carrozzeria Touring ยอดผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอิตาลี; HM8 “Can-Am” ที่สะท้อนถึงนวัตกรรมอันไร้ขอบเขตของรถแข่ง Can-Am รวมทั้งผลงานล่าสุด HM8 Mark2 ที่สะท้อนความงดงามโฉบเฉี่ยวของ Porsche 918 Spyder โดยรวมคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมจากรุ่นก่อนๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
นิทรรศการนี้ยังเป็นการแสดงความขอบคุณ และความซาบซึ้งใจของ MB&F ที่มีต่อนักสะสมและคนรักนาฬิกาในประเทศไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน ให้ความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ MB&F ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นิทรรศการครั้งนี้ ยังเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง MB&F และ PMT The Hour Glass รวมถึงสะท้อนความมุ่งมั่นที่จะรักษาความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเลิศในการประดิษฐ์นาฬิกา และส่งมอบศิลปะบอกเวลาชั้นยอดให้กับนักสะสมและคนรักนาฬิกาในประเทศไทย
