ภาพทิวทัศน์แนวเขา เส้นขอบฟ้า ที่มาบรรจบกับท้องทะเลอันดามันในจังหวัดภูเก็ต กลายมาเป็นฉากหลังที่สว่างสไวให้กับงานจัดแสดงเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงของ Louis Vuitton ที่ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่มาร่วมงานรับชมสุดยอดงานสร้างสรรค์ที่วิจิตรตระการตาอย่างใกล้ชิด โดย Francesca Amfitheatrof ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แผนกนาฬิกาและเครื่องประดับของ Louis Vuitton พาเราเดินทางย้อนเวลากลับไปสำรวจจุดกำเนิดของพื้นพิภพ ตำนานแห่งธรณี การผันแปรวิวัฒนาการณ์อันงดงาม และจุดเชื่อมโยงอันไม่มีที่สิ้นสุดและน่าอัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิต ผ่านผลงานเครื่องประดับชั้นสูงแบบ one-of-a-kind จำนวน 50 ชิ้นในคอลเลกชั่น Deep Time Chapter II ที่ต่อเนื่องมากจาก Chapter I ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ โดยความพิเศษที่นอกเหนือจากเรื่องราวแรงบันดาลใจที่สะท้อนบนงานดีไซน์แล้ว ก็ยังเจิดจรัสด้วยอัญมณีล้ำค่าที่หายากยิ่งอีกด้วย
การเดินทางของ Deep Time เริ่มต้นด้วยเรื่องราวทางธรณีวิทยาที่พาเราไปสู่ช่วงเวลาที่โลกของเราเริ่มแบ่งแยกออกเป็นสองมหาทวีป คือ Gondwana และ Laurasia สะท้อนผ่านร่องรอยแห่งการสั่นไหวของพิภพ การเคลื่อนตัวของแนวสันทราย ไปจนถึงการแตกแยกแบ่งตัวของเซล รุ่งอรุณใหม่ของสิ่งมีชีวิต จากมหาสมุทรสู่ชีวิตแรกบนผืนแผ่นดิน ที่เชื่องโยงสัมพันธ์กันเกิดเป็นระบบนิเวศทางธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Francesca ในการออกแบบทั้งเรื่องของรูปทรงโครงสร้าง ลวดลายกราฟฟิก และสีสัน การเจียระไน ประกายแวววาวของอัญมณีหลากหลายชนิด หนึ่งในผลงานที่เราประทับใจก็ได้แก่ สร้อยคอ ‘Laurasia’ ที่งดงามสะดุดตาด้วยเพชรสีเหลืองเจียระไนแบบเอเมอรัลคัตน้ำหนัก 5.02 กะรัต เคียงข้างกับเพชรขาวเจียระไนแบบเอเมอรัลคัตอีก 34 เม็ด และเพชรเจียระไนแบบ LV Monogram Flower น้ำหนัก 3.11 กะรัต ประดับประดาบนสร้อย 7 แถว ที่มาพร้อมดีไซน์รูปตัว ‘V’ อันมีเอกลักษณ์ ต่อมาเป็นสร้อยคอ ‘Fossils’ ที่ต่อยอดมาจากสร้อยคอ ‘Fossils’ ใน Chapter I ที่ละเอียดอ่อนด้วยลวดลายรังผึ่ง และลาย Damier อันเป็นเอกลักษณ์ของเมซง บนสายสร้อยสามเส้นที่แยกออกจากกันได้ ที่ส่งต่อเส้นสายในงานออกแบบมายัง สร้อยคอ และสร้อยข้อมือ ‘Fossils’ ใน Chapter II “ฟอสซิลนั้นเป็นดั่งขุมสมบัติแห่งเวลาและสถานที่ มันคือสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวแห่งการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของโลกของเราได้อย่างน่าเหลือเชื่อ” Francesca กล่าว
โดยนอกจากฟอสซิลแล้วก็ยังมีอีกหลากหลายชิ้นงานสุดอลังการที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทั้งพืชพันธุ์ธรรมชาติ เห็ด เมล็ดพืช ดอกไม้ ไปจนถึง กระดูก และ ผิวหนัง ที่รอให้เราไปสำรวจโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์และจินตการของ Louis Vuitton ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไร้ขอบเขต