Jaeger-LeCoultre เปิดตัวเรือนเวลาสุดพิเศษในซีรีส์ Reverso Tribute Enamel เพื่อเฉลิมฉลองเมืองเวนิส ผ่านภาพวาดของศิลปินอิมเพรสชันนิสต์ชื่อดัง Claude Monet โดยผลงานเหล่านี้ถูกตกแต่งอย่างละเอียดอ่อนด้วยฝีมือช่างผู้เชี่ยวชาญ และได้เปิดตัวในงาน Homo Faber Biennial ณ เมืองเวนิส และถูกจัดแสดงที่งานระหว่างวันที่ 1-30 กันยายนนี้
ในช่วงบั้นปลายของชีวิต Claude Monet ได้วาดภาพ ‘Venice Series’ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความงดงามของสถาปัตยกรรมและแสงสว่างที่สะกดใจเขาในขณะที่พักอยู่ในเมืองเวนิสเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 1908 แม้ในตอนแรก Monet จะกล่าวว่าเมืองนี้ “สวยเกินกว่าจะวาด” แต่ในที่สุดเขาก็ลงมือสร้างผลงานอันน่าทึ่งมากถึง 37 ภาพจากสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเวนิส โดยเน้นการจับภาพแสงและบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา
ซีรีส์ Reverso Tribute Enamel ‘Venice Series’ ถ่ายทอดความงดงามของผลงานของ Monet ลงบนฝาหลังของนาฬิกา โดยทีมช่างจาก Jaeger-LeCoultre ที่มีความเชี่ยวชาญในการลงยาสีและการวาดภาพขนาดย่อส่วน ซึ่งต้องอาศัยความประณีตในการย่อภาพขนาด 65 x 92 ซม. ลงบนพื้นที่เล็ก ๆ ขนาดเพียง 25 x 20 มม. นอกจากนี้ยังมีการสร้างความลึกของสีและแสงเงา เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์แสงที่สมบูรณ์แบบคล้ายต้นฉบับ ใช้เวลากว่า 14 ชั้นของการเคลือบและการยิงไฟมากถึง 15 ครั้งที่อุณหภูมิสูงถึง 800°C เพื่อให้ได้สีสันที่คมชัดและลึกซึ้ง
นอกจากการตกแต่งฝาหลังแล้ว หน้าปัดของนาฬิกายังถูกตกแต่งด้วยการลงยาโปร่งแสงและลวดลาย guilloché ซึ่งการลงสีแต่ละชั้นใช้เวลาทำงานประมาณ 8-9 ชั่วโมง และต้องผ่านกระบวนการยิงไฟอีกหลายครั้ง
ซีรีส์ Reverso Tribute Enamel ‘Venice Series’ ประกอบด้วยผลงานสามชิ้นเอกที่นำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมของ Jaeger-LeCoultre ผ่านภาพวาดของ Monet ได้แก่
San Giorgio Maggiore at Dusk – ภาพวาดเกาะ San Giorgio Maggiore ยามอาทิตย์ตก ถูกถ่ายทอดบนฝาหลังด้วยการลงยาที่ใช้เวลากว่า 70 ชั่วโมง ตัวเรือนหน้านาฬิกามีลวดลาย guilloché แบบลายก้างปลาและเคลือบสีฟ้าโปร่งแสงอย่างวิจิตร
The Grand Canal Venice – ภาพวาดทิวทัศน์ของ Grand Canal และโบสถ์ Santa Maria della Salute ยามบ่าย หน้าปัดของเรือนเวลาถูกตกแต่งด้วยลวดลาย guilloché แบบคลื่นและเคลือบสีเขียวอ่อนโปร่งแสง สะท้อนภาพน้ำในภาพวาด
The Doge’s Palace – ภาพวาดวัง Doge ยามเช้าถูกสร้างสรรค์อย่างประณีตบนฝาหลังของเรือนเวลา ลวดลาย guilloché แบบข้าวหลามตัดบนหน้าปัดทำให้แสงและเงาเปลี่ยนแปลงไปตามมุมที่มอง
ซีรีส์ Reverso Tribute Enamel ‘Venice Series’ ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือนต่อรุ่น เป็นการรวมเอางานฝีมือดั้งเดิมของการผลิตนาฬิกาและงานศิลป์การลงยาจิ๋วอันละเอียดอ่อนเข้าไว้ด้วยกัน นับเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Jaeger-LeCoultre ในการเชิดชูงานศิลป์ร่วมสมัย