Titan by Pharrell Williams จาก Tiffany & Co.
ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นด้วยข้อต่อทรงโค้งตัดสลับกับโครงสร้างรูปทรงปลายหอกคล้ายกับหมุดแหลมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตรีศูลของเทพเจ้าโพไซดอน ทั้งตัวเรือนเยลโลวโกดล์ ไทเทเนียมสีดำ และเพิ่มความแวววาวนุ่มนวลด้วยมุกน้ำจืดขนาด 11 มม. ซึ่งเป็นการรำลึกถึงบ้านเกิดและชุมชนริมชายหาด Virginia ของ Pharrell
“คอลเลกชั่น Tiffany Titan by Pharrell Williams นั้นท้าทายแบบแผนของการออกแบบไฟน์จิวเวลรี่ มันแสดงถึงความสมดุลในวิสัยทัศน์ของ Pharrell และงานช่างฝีมือของ Tiffany ที่ต่างมีความสร้างสรรค์และแปลกใหม่ ผลงานแต่ละชิ้นแสดงถึงสไตล์ที่แตกต่างและมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pharrell” Alexandre Arnault รองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ การสื่อสาร และอุตสาหกรรมของ Tiffany & Co. กล่าว
Jil Sander Fine Jewelry จาก Jil Sander
ในปี 2024 Jil Sander ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นกับการเปิดตัวคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเรียบง่ายงดงาม ผลงานการออกแบบโดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์สองสามีภรรยา Lucie และ Luke Meier โดยแรงบันดาลใจในการออกแบบนั้นมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพืชพันธุ์ สายน้ำ และจักรวาล มีการเล่นกับแสงและผิวสัมผัส เน้นการใช้รูปทรงธรรมชาติ ตัวเรือนทองคำ 18k และเพชรผลิตในห้องแล็ปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือดั้งเดิมของอิตาลี
Drop, Primavera และ Catena จาก Bottega Veneta โดย Matthieu Blazy
Bottega Veneta เปิดตัวคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรีใหม่ล่าสุด ซึ่งออกแบบโดย Matthieu Blazy ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ คอลเลกชั่นนี้ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Drop ที่ได้นำลวดลายหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาใช้ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ประกอบไปด้วยสร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวน และต่างหูในตัวเรือนเยลโลวโกลด์ และไวท์โกลด์ประดับเพชร ส่วน Primavera ได้แรงบันดาลใจมาจากความละเอียดอ่อนของดอกไม้ป่า ประกอบด้วยสร้อยคอ 2 แบบ แหวน และต่างหู 2 ชุด โดดเด่นด้วยงานออกแบบที่ซับซ้อนและการฝังเพชรอันละเอียดอ่อน และสุดท้ายกับ Catena นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากโคมไฟระย้าสไตล์เวนิสแบบโบราณ โดยนำรูปทรงและสัดส่วนของไลน์ Fin และ Twisted ของ Bottega Veneta มาใช้ในงานออกแบบ ประกอบไปด้วยกำไล 2 แบบที่สามารถเชื่อมต่อกันเป็นสร้อยคอได้อย่างลงตัวโดดเด่นสวยงาม
Prada Eternal Gold จาก Prada
Prada มุ่งเน้นการนำเสนอคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ที่ทุกชิ้นงานล้วนผลิตจากทองคํารีไซเคิลซึ่งผ่านการรับรอง 100% รวมถึงเพชรที่สังเคราะห์ขึ้นในห้องแล็ปหรือ lab grown diamond โดยยึดตามแนวทางปฏิบัติภายใต้แนวคิดเรื่องความยั่งยืน ผสานควบคู่ไปกับเทคนิคงานช่างฝีมือทางด้านอัญมณีและโลหะมีค่า นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยดีไซยน์อันโมเดิร์นมีเอกลักษญ์ของแบรนด์ อย่างรูปทรงสามเหลี่ยมในรูปแบบต่างๆ การร้อยเรียง ตัดทอน อย่างสร้างสรรค์ ความงดงามเรียบเท่ในแบบสากล เข้าได้กับหลากหลายสไตล์ และสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
Le Damier de Louis Vuitton จาก Louis Vuitton
Louis Vuitton กับคอลเลกชั่นไฟน์จิวเวลรี่ Le Damier de Louis Vuitton ที่นำเสนอการตีความใหม่ของลวดลาย Damier อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ผ่านดีไซน์อันโมเดิร์นซึ่งสะท้อนถึงความงดงามอันไร้ขอบเขตและเสน่ห์ที่ไม่สิ้นสุด “แรงบันดาลใจนั้นมาจากปี 1888 ที่ลาย Damier ได้ถือกำเนิดขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขแปดสามตัวที่แสดงถึงความไม่มีที่สิ้นสุดและความเป็นนิรันดร์ อีก 136 ปีต่อมา เราได้นำลายเส้นอันแสนคลาสสิกของแหวนเพชรเรียงและสร้อยข้อมือแบบ tennis bracelet มาสร้างสรรค์ใหม่ให้เป็นคอลเลกชั่นแบบยูนิเซ็กส์ที่มีความโดดเด่นและร่วมสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และวิสัยทัศน์ของ Vuitton อย่างชัดเจน” Francesca Amfitheatrof ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แผนกนาฬิกาและเครื่องประดับของ Louis Vuitton เล่าถึงที่มาของคอลเลกชั่น
Bvlgari Tubogas จาก Bulgari
เครื่องประดับคอลเลกชั่น Bvlgari Tubogas จาก Bulgari โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สืบทอดมาจากยุค ‘50s ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบอาร์ตเดโค ผสานเข้ากับเทคนิคทูโบกาส (Tubogas) ที่นำเสนอความยืดหยุ่นอันแสนพิเศษซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์ ทั้งสร้อยคอโช็คเกอร์ กำไล ต่างหูและแหวน สวยงามสะดุดตาด้วยการตกแต่งหมุดทรงเหลี่ยมประดับเพชรดีไซน์เท่ มีทั้งตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 18k ที่เชื้อชวนให้หวนนึกถึงโทนสีอันอบอุ่นและประกายแสงเรืองรองท่ามกลางภูมิทัศน์ในอิตาลี และเวอร์ชั่นทองสามสีอันงดงามร่วมสมัย
Trinity จาก Cartier
Trinity ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1924 และในปีนี้ก็ได้เดินทางมาครบ 100 ปี ของเครื่องประดับสุดไอคอนิก Trinity ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความหลากหลาย จากแหวนทรงกลมตัวเรือนทองสามชนิดสามวงที่พันเกี่ยวคล้องเข้าด้วยกันสู่แหวนทรงสี่เหลี่ยมมุมมนดีไซน์ล่าสุด นอกจากนี้ก็ยังมีทั้งกำไล จี้ และตุ้มหู ที่ล้วนงดงาม เรียบหรูไร้กาลเวลา สะท้อนเรื่องราวและมรดกที่สืบทอดมายาวนานตลอดหนึ่งร้อยปีในฐานะตัวแทนของความรัก ความเป็นสากล และความผูกพันในหลากหลายรูปแบบได้อย่างไร้ที่ติ
COCO CRUSH จาก CHANEL
ในปีนี้ CHANEL ได้เพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาในคอลเลกชั่น COCO CRUSH กับกำไลข้อมือไซส์มินิในตัวเรือนเบจโกดล์ ไวท์โกลด์ และ เยลโลวโกดล์ ที่มีทั้งเวอร์ชั่นประดับเพชร และไม่มีเพชร ด้วยดีไซน์อันคลาสสิกสวยงามสะอาดตา สะท้อนถึงทั้งความแข็งแกร่ง เรียบง่าย ละเอียดอ่อนและนุ่มนวล พื้นผิวโค้งขัดมันวาวมาพร้อมลายกากบาทอันเป็นลักษณ์ พิเศษด้วยข้อต่อที่ไร้รอยต่ออย่าง COCO TWIST ทำให้ใส่และถอดออกได้อย่างง่ายได้ สะดวกสบาย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
Ice Cube จาก Chopard
Ice Cube นั้นพัฒนามาจากดีไซน์ดั้งเดิมซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 โดยนำเสนอถึงความสมบูรณ์แบบของรูปทรงเลขาคณิตอย่างรูปทรงลูกบาศก์ในมุมมองใหม่ Ice Cube ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะแบบมินิมัลลิสม์ในยุคบาวเฮาส์ รวมถึงงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เน้นเส้นสายอันสวยงามสะอาดตา และพิเศษด้วยการเล่นกับแสงและเงาอย่างสร้างสรรค์และมีมิติ จากขอบอันสมมาตรทั้งสี่ด้านของลูกบาศก์ ทุกเหลี่ยมมุมที่ผ่านการขัดแต่งอย่างพิถีพิถัน ไปจนถึงการขัดผิวเงางามราวกับกระจก
Rose de Noël จาก Van Cleef & Arpels
เฉลิมฉลองความงดงามของธรรมชาติในฤดูหนาวด้วยเครื่องประดับคอลเลกชั่น Rose de Noël ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากดอกคริสต์มาสซึ่งเผยโฉมครั้งแรกในปี 1970 มาในปีนี้กับเวอร์ชั่นใหม่ ทั้งตุ้มหู และสร้อยคอพร้อมจี้ตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับเปลือกหอยมุกสีเทาทอประกายแวววาวเหลือบรุ้งเป็นกลีบดอกไม้ที่ซ้อนกันสวยงามมีมิติ ส่วนเกสรดอกไม้ประดับด้วยเพชรระยิบระยับงดงามในทุกรายละเอียดสมจริงและเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อันมีชีวิตชีวา ส่วนอีกเวอร์ชั่นมาในตัวเรือนเยลโลวโกลด์ประดับด้วยเพชรและเทอร์ควอยซ์สีฟ้าสดใสตัดกันโดดเด่นสะดุดตา