Friday, December 6, 2024
More

    ร่วมเปิดประสบการณ์ ‘Long Lost Recipe ตามหาสูตรอาหารที่หายไป’ ที่ห้องอาหารชมสินธุ์

    on

    - Advertisement -

    สำหรับเหล่านักชิมที่หลงใหลในเสน่ห์แห่งรสชาติและความซับซ้อนของอาหารไทย บาซาร์อยากชวนคุณมาร่วมตามหาสูตรลับที่หายไปกับ ‘Long Lost Recipe’ ดินเนอร์มื้อพิเศษที่รวมเชฟชื่อดังไว้ถึง 4 คน คือ เชฟบูม-กันต์รัตน์, เชฟเบลท์-เอกชัย แสงกาศนีย์, เชฟบอย-ปิยะชาติ พุทธวงษ์ และ เชฟประวีณ ดีลี โดยดินเนอร์มื้อพิเศษนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 6-7 มิถุนายน 2567 ที่ห้องอาหารชมสินธุ์ (ChomSindh) โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ

    ห้องอาหารชมสินธุ์ โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ

    ตลอดมื้ออาหารในค่ำคืนของ The Long Lost Recipe คุณจะได้ลิ้มลองเมนูอาหารจากเชฟชื่อดังทั้ง 4 ที่จะชวนให้ลิ้มลองสูตรอาหารที่หายไปเนิ่นนาน พร้อมมือระนาดรุ่นใหม่ Fino the Ranad ที่จะมาสร้างบรรยากาศด้วยเสียงดนตรีไทย ให้อาหารอร่อยกว่าเดิม

    ตามหาสูตรอาหารที่หายไปกับ The Long Lost Recipe

    The Overture – เปิดมื้อด้วยขนมปังที่ทำมาจากข้าวหอมมะลิ เสิร์ฟพร้อมกุ้งแห้ง และเนยใส่น้ำพริก ตามด้วยของว่าง 2 แบบ ได้แก่ ไข่เต่า และทาทาเล่ เชฟบูมจะเริ่มเสิร์ฟจานแรกเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยคือ คาร์ปาชโชปลาเก๋า ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดใส่น้ำมันมะกอก รับประทานคู่กับแตงกวาแช่ว้อดก้า น้ำมันสะระแหน่ มูสเต้าเจี้ยวบนขนมปังปิ้ง พร้อมเนื้อปูและเจลเสาวรส

    เชฟบูม-กันต์ยรัตน์ เป็นที่รู้จักจากการเป็น 1 ใน 3 ผู้เข้ารอบสุดท้ายรายการแข่งขันทำอาหาร The Next Iron Chef  ซีซั่นที่ 2 เชฟบูมสั่งสมประสบการณ์การมากมายทั้งในฐานะเชฟ และเจ้าของร้านอาหารอีก 4 แห่ง ได้แก่ Chunky, ข้าวหนมจีน, Blueshark Café Koh Tao และ Boom’s Cookies

    The Beginning – นำเสนอเมนูพิเศษของเชฟประวีณ นั่นก็คือแกงรัญจวนที่หอมน้ำแกงที่ใส่กะปิอย่างดี พร้อมเนื้อวัวตุ๋น ตะไคร้ ใบโหระพา เสิร์ฟพร้อมโฟมกะทิและผงโหระพา จากนั้นตามด้วยอาหารเรียกย้ำย่อยอีกจานได้แก่ ไก่กอและ ซึ่งเชฟจะนำไก่ไปปรุงรสแบบภาคใต้ของไทยและปั่นจนเข้าเนื้อก่อนปรุงสุก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มอาจาดใส่แตงกวาและหอมแดง

    เชฟเบลท์-เอกชัย แสงกาศนีย์ ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจากรายการแข่งทำอาหาร TopChef Thailand ซีซั่นที่ 3 และได้รับคำชื่นชมว่าเป็นเชฟที่สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอาหารไทย ปัจจุบันเชฟเบลท์เป็นเจ้าของร้าน Chunky เป็นที่ปรึกษาให้เชฟ และรับสร้างสรรค์อาหารในงานแบบไพรเวท

    เพื่อล้างปากก่อนเข้าสู่อาหารจานหลัก ทุกท่านยังจะได้ลิ้มลองซอร์เบต์ข้าวแช่สูตรเชฟบอย ซึ่งจะเสิร์ฟพร้อมเจลที่ทำมาจากดอกไม้กินได้ ชัทนีย์ไชโป๊วหวาน มะม่วงน้ำปลาหวาน สับปะรด และซอสกระชาย ส่วนจานหลักในค่ำคืน The Long Lost Recipe จะมีให้ลิ้มลองถึง 2 เมนูด้วยกันนั่นคือ กุ้งแม่น้ำรมควันทอดเกลือ เสิร์ฟพร้อมซอสเปลือกกุ้ง และน้ำจิ้มมะขาม รับประทานคู่กับข้าวหอมมะลิ มันกุ้ง และน้ำมันพริก ส่วนจานหลักอีกเมนูคือเนื้อวากิวของไทยย่างเตาถ่าน เสิร์ฟพร้อมชัทนีย์สับปะรด น้ำจิ้มซีฟู้ด กุ้งหวานเกาะยอ และปลาเค็มทอด โดยเชฟเบลท์เป็นคนคิดและปรุงทั้ง 2 เมนู

    เชฟบอย-ปิยะชาติ พุทธวงษ์ เชฟที่ปรึกษาของห้องอาหารชมสินธุ์ ผู้เชี่ยวชาญทั้งการทำอาหารไทย และอาหารนานาชาติ เชฟบอยเคยทำให้ร้านอาหารไทยที่เขาดูแลคว้าดาวมิชลินมาได้ในปี 2019 และเขามีความเชี่ยวชาญทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน

    The Finale – เมนูพิเศษโดยเชฟบอย ข้าวเหนียวมะม่วง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมน้ำนมข้าวยาคู กินคู่กับซอสบ๊วยและทองม้วนกรอบ ส่วนขนมกินเล่นปิดท้ายมื้อ หรือ Petit Fours ได้แก่ ขนมถ้วย ขนมเบื้องไส้ฝอยทอง ขนมเปียกปูน และขนมต้มแป้งข้าวเหนียวดำหอมหวานด้วยไส้กระฉีกน้ำตาลมะพร้าว

    เชฟประวีณ ดีลี หัวหน้าพ่อครัวของห้องอาหาร ชมสินธุ์ มีความตั้งใจที่จะทำอาหารอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เขาผลักดันหลักการ Zero Waste หรือแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์ พร้อมใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เชฟประวีณยังได้ปลูกสวนสมุนไพรไว้ที่ชั้น 8 ของโรงแรมอมารี กรุงเทพฯ เพื่อลดการการใช้พลังงานจากการขนส่ง

    ดินเนอร์ในธีม Long Lost Recipe จากเชฟชื่อดัง 4 คน จำหน่ายในราคาท่านละ 5,888 บาท พร้อมตัวเลือกไวน์แพริ่งในราคา 1,800 บาทต่อท่าน รายละเอียดเพิ่มเติม www.amari.com/bangkok