Thursday, October 3, 2024
More

    ค้นหาสิ่งที่อยู่ในใจของ เป๊ก ผลิตโชค ศิลปินที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน Godfather of Sad Songs ของวงการเพลงไทย

    on

    - Advertisement -

    น่าจะเป็นเวลาเกือบปีเลยทีเดียว ที่เราได้พูดคุยกับ ‘เป๊ก – ผลิตโชค อายนบุตร’ นับตั้งแต่เขาปล่อยผลงานที่ฉีกลุคตัวเองอย่างสิ้นเชิงในเพลง Night Bird เพลงที่บ่งบอกตัวตนในความเป็นคนที่ชอบเวลาในช่วงค่ำคืนของเขา และหลังจากนั้น ชายหนุ่มเจ้าของเสียงร้องเอกลักษณ์ก็ห่างหายไปจากวงการบันเทิงหลายเดือน เนื่องด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัว หลังการพักฟื้นครั้งใหญ่ ในที่สุดเราก็ได้เจอเขาอีกครั้ง และเป๊กก็พร้อมที่จะสานต่ออัลบั้มของเขากับเพลงใหม่แล้ว“

    “ถ้าถามว่าทำไมถึงเจ็บตัวขนาดนั้น ก็คือซนครับ เป็นความซนเลย ก่อนหน้านี้คือพักงานมา 8-9 เดือน เรียกว่าตกงานเลยก็ได้” ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เพราะขยับตัวไม่ได้เลย เรื่องของเรื่องคือผมซี่โครงหักเพราะไปขับ ATV ที่เขาใหญ่แล้วคว่ำครับ แล้วพอพักจนร่างกายเริ่มดีขึ้น ช่วง Countdown ก็กระโดดลงเวทีจนเส้นเอ็นขาด 2 เส้นไปอีกครับ”

    มาถึงการพูดคุยเรื่องผลงานใหม่ของเขา แม้จะห่างหายจากเพลงล่าสุดมาหลายเดือน ในที่สุดเพลง ‘ไม่พูดหน่อยเหรอ (Say Something)’ ก็ปล่อยออกมา และมันยังคงเป็นซิงเกิ้ลที่ 3 ที่จะถุกบรรจุอยู่ในอัลบั้มใหม่ของเขา “ผมวางคอนเซ็ปต์ในอัลบั้มให้ไปในทางเดียวกัน จากเพลงแรก Touch my body เปน pop แต่จะใส่ซาวด์ อิเลกโทรนิกส์เพิ่มเข้าไป ส่วน Night Bird ก็เป็นดนตรีในแบบที่ผมอยากได้ อยากทำมาโดยตลอด ผมก็วางแบบนี้ทั้งอัลบั้ม”

    ดูเหมือนว่า 2 ก่อนหน้า เป็นเพลงที่เป๊กอาจต้องท้าทายตัวเองมากที่สุด เพราะหากใครฟังเพลงของเขาก็จะจำได้ว่า ‘เป๊ก – ผลิตโชค’ คือหนึ่งในศิลปินที่ร้องเพลงช้าได้กินใจที่สุดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นการปล่อยเพลงมีจังหวะสนุกๆ ออกมาติดกัน 2 เพลงก็ถือเป็นความกล้าหาญที่จะทำตามใจตัวเ องบ้างของเขาเลย “ส่วนเพลงนี้ ก็อยากให้เป็น pop จริงๆ อีกเพลง ผมก็เลยฝากเพื่อนสนิทคือคุณโจ๊กให้ช่วย พอคุณโจ๊กเสนอเพลงมา ผมฟังเนื้อเพลงแล้วก็ใช่เลย แล้วเรากำลังฟีลแบบนี้พอดีด้วย” เขากล่าวถึงที่มาของเพลงเศร้าที่กำลังเป็นที่นิยมตั้งแต่ปล่อยออกมา “ซึ่งผมก็คิดว่าตัวเองได้ทำตามใจใน 2 เพลงแรกแล้ว คราวนี้ก็ให้คนอื่นช่วยทำให้อัลบั้มมันคอมพลีตบ้างครับ” เมื่อเราถามว่าเขารู้ไหมว่าแฟนๆ ก็คิดถึงเสียงในเพลงช้าของเขา เป๊กตอบกับเราว่า “รู้ครับ ใจผมน่ะอยากให้มีแต่เพลงกรูฟๆ สนุกๆ แต่ก็คิดว่าลองทำดูหน่อยดีกว่า ก็เลยได้มาเป็นเพลง  ไม่พูดหน่อยเหรอ (Say Something) นี่ล่ะครับ”

    เป๊กบอกว่าเพลงนี้ตรงกับเขา แล้วถ้าต้องเจอเหตุการณ์ไปไม่ลาแบบนี้เขาจะทำอย่างไร “ใช่ครับ ส่วนหนึ่งมันก็มาจากประสบการณ์ของผมเองครับ จู่ๆ คนๆ หนึ่งหายไป นึกจะไปก็ไป ผมว่ามันคือความแย่มากถึงแย่ที่สุด บางทีคนเราก็ต้องควรให้อีกฝ่ายรู้บ้าง Goodbye กันหน่อย ไม่ใช่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย มันก็ไม่ได้นะครับ ทำไมจิตใจเป็นแบบนี้นะ” ก่อนเขาจะหัวเราะเพราะรู้ตัวว่าใส่อารมณ์มากไปหน่อย “เอาเป็นว่าคนเราคือต้องมีการร่ำลากันบ้างครับ”

    ในการใช้ชีวิตคนวงการบันเทิงมาเกือบ 20 ปี เป๊กต้องเจอกับผู้คนหลายรูปแบบ ถ้าให้พูดถึงความสัมพันธ์ที่น่ากลัวที่สุดสำหรับเขาแล้วคือแบบไหนกัน “คนที่เอาเปรียบคนครับ” เขาตอบอย่างรวดเร็ว “มันไม่น่ารักเลย การไม่นึกถึงใจคนอื่นอะไรแบบนั้นน่ะครับ” นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เป๊กไม่ชอบมากๆ อีก “ผมยังไม่ชอบการพูดถึงคนอื่น ในขณะที่ยังไม่ได้รู้จักตัวตนของคนๆ นั้นดีจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับผมหรือใครก็ตาม อย่างน้อยก็ต้องรู้จักกันก่อนสิครับ”

    “เวลามีเรื่องอะไรเข้ามา เราจะสงบจิตสงบใจได้อย่างไร” เราถามเขา ก่อนจะได้คำตอบที่ต่างไปจากที่เราคิด “จิตใจสงบเหรอครับ ไม่ครับ จริงๆ ผมไม่สงบเท่าไหร่” เป๊กกล่าว และมันเป็นคำตอบที่จริงใจมากเลยทีเดียว “เราไม่ใช่คนที่บรรลุทางธรรมแล้วอะไรแบบนั้นครับ” เป๊กมีสีหน้าจริงจัง “ผมยังเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึก ถึงแม้จะได้ยินอะไรตลอดเวลาก็ไม่สามารถนิ่งได้ แม้ทุกคนจะบอกผมว่าอย่าไปฟัง แต่เอาเข้าจริงๆ นะครับ ถ้าต้องเจอกับตัวเอง เขาจะรู้สึกปล่อยวางได้จริงๆ ไหม ถ้าได้ก็ดีไป ก็เข้าใจว่ามันก็อาจเป็นการพูดปลอบใจเรานะครับ แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะรู้สึกอะไร เราก็ต้องคอนโทรลใจของเราเอง แล้วปล่อยมันไป ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าถามว่ามันยังติดอยู่ในใจมั้ย แน่นอน… มันยังติดอยู่แน่นอนครับ”

    เพราะการอยู่ในวงการบันเทิงนั้นแน่นอนว่าไม่ง่ายหรือสวยหรูอย่างที่ใครคิด แต่สิ่งที่ทำให้เป๊กยืนหยัดอยู่ได้มาตลอด 20 ปีนั้นก็มีอยู่เช่นกัน นั่นก็คือ ‘ความรักในการร้องเพลง’ “ผมรักในความฝันของตัวเองที่จะเป็นนักร้องครับ ได้มาเป็นนักร้องนี่ก็ดีใจมากๆ แล้ว คือผมรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสกิลที่ถนัดที่สุดในชีวิตเท่าที่เรามีแล้วครับ ถ้าไม่ใช่สิ่งนี้ ผมก็ไม่รู้จะเป็นอะไรแล้ว” เป๊กกล่าวจริงจัง “ผมทุ่มเทในสกิลนี้มาตลอด ผมเรียนร้องเพลงตลอดเวลา ตอนปริญญาตรีก็เรียนโอเปร่า ถึงตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ตลอด ทางค่ายก็ซัพพอร์ตอยู่ตลอดครับ” นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงทุกคนที่สนับสนุนให้เขายังยืนหยัดได้จนถึงวันนี้  “คือต้องขอขอบคุณสิ่งที่นำพาผมให้ได้มาร้องเพลงครับ ในช่วง 20 ปีมันเป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ ไปเลย”

    เมื่อพูดถึงงานอดิเรกอื่นๆ ถึงแม้จะบอกตัวเองชอบร้องเพลงแต่อีกหนึ่งที่ชอบคงเป็นการแต่งบ้าน เขายังชอบแต่งบ้านให้คนรู้จักอีกด้วย “ผมชอบงานดีไซน์ ชอบเฟอร์นิเจอร์มากๆ ครับ ไม่ชอบความมินิมัลเลย ไม่ชอบความน้อยๆ ด้วย ผมชอบอะไรที่เยอะๆ แบบ Maximalist ต้องเยอะ ต้องมหัศจรรย์ หาได้ยาก” เขาหัวเราะ เวลาไปต่างประเททศ ผมก็จะซื้อของประจำชาติเขากลับมาครับ อะไรที่หาไม่ได้ที่เมืองไทย อะไรที่มีคุณค่าต่อประเทศของเขา ผมก็มักจะซื้อกลับมาอย่างล่าสุดก็ ไข่ Faberge ของรัสเซียครับ

    สำหรับเป๊กแล้ว เราอยากรู้ว่าผู้ชายในมุมมองผู้ชาย เป๊กคิดว่าคนเท่ในสายตาเขาคือคนแบบไหน “ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายผมก็คิดว่าคนที่ไม่พูดหยาบนั้นดูเท่ดีนะครับ ผมไม่ได้มีใครเป็นไอดอลขนาดนั้น แต่คนที่เขาดูเท่ก็คงเท่ ไม่มีเหตุผลอะไร ไม่ต้องทำอะไร เขาก็เท่โดยธรรมชาติเลยล่ะครับ” ศิลปินหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย

    เรื่อง : Suthaorn Angkavanich
    ถ่ายถาพ : Ponpisut Pejareon
    เสื้อผ้าจาก : ฺชุดสูท เชิ้ต และกางเกงสีดำ จาก BOSS | เชิ้ตขาว กางเกง และสูทสีเทา จาก Vvon Sugunnasil|
    สถานที่ : SO/ Bangkok
    กรูมมิ่ง : พรพิชิต ขุมเงิน
    ทำผม : ธานุพล ภู่เทพอมรกุล
    ผู้ช่วยช่างภาพ : กฤษฎา หงส์เลิศกวิน

    #BAZAARInterview #BAZAARVoice #PeckPalit #เป๊กผลิตโชค