จนถึงวินาทีนี้ สำหรับผู้ที่ติดตามวงการ K-Pop อาจจะได้ยินชื่อของ ATEEZ วง K-Pop จากค่าย KQ Entertainment กันมาตลอดอยู่แล้ว และสำหรับคนอาจไม่ได้ติดตามก็อาจจะได้ยินชื่อของวงนี้มากขึ้น เพราะล่าสุด ATEEZ ได้ปรากฏอยู่ในอันดับที่ 1 บนชาร์ท Billboard 200 Album Chart เฉือนเอาชนะอัลบั้มใหม่ของวงร็อคระดับโลกอย่าง Linkin Park ได้สำเร็จ โดยการขึ้นอันดับ 1 ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ถัดจากอัลบั้ม The World EP. Fin : Will ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน จากความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้ ATEEZ ได้รับการบันทึกว่าเป็นวง K-Pop ที่มีอัลบั้มติดอันดับที่ #1 มากกว่า 1 ครั้ง ต่อจาก BTS (6 ครั้ง) และ Stray Kids (6 ครั้ง)
หน้าที่ ความสามารถ และเสน่ห์ที่แตกต่างของสมาชิกวง
สมาชิกของ ATEEZ มีทั้งหมด 8 คนซึ่งแต่ละคนมีเอกลักษณ์เป็นที่จดจำและมีความสามารถเฉพาะตัว
Hongjoong
Kim Hong Joong (คิม ฮงจุง เกิด 7 พฤศจิกายน 1998 ตำแหน่ง : Leader, Main Rapper, Producer บ้านเกิด : Anyang, เกาหลีใต้) หัวหน้าวงหรือที่เรียกว่า ‘กัปตัน’ ของวงตามธีมโจรสลัด Hongjoong เป็นสมาชิกและศิลปินคนแรกของค่าย KQ Entertainment เดิมทีเขาสมัครเข้ามาที่ KQ เพื่อเป็นนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์เท่านั้น ก่อนที่จะได้รับโอกาสจากทางค่ายให้ทำงานในฐานะศิลปิน โดยนับตั้งแต่อัลบั้มแรก Hongjoong ก็มีส่วนร่วมในการแต่งเพลงร่วมกับทีมโปรดิวเซอร์ของ KQ มาโดยตลอด เขายังรับหน้าที่เป็น Main Rapper ที่มีการแร็ปที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว Hongjoong ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งใน Brand Ambassador ของ Balmain ในปี 2023 โดยได้ฉายาว่า ‘Prince of Balmain’
Seonghwa
Park Seong Hwa (พัค ซองฮวา ตำแหน่ง : Vocal, Visual เกิด 3 เมษายน 1998 บ้านเกิด : Jinju, เกาหลีใต้) สมาชิกที่เป็นพี่ใหญ่ขอวง เดิมทีเขาสมัครเพื่อเข้ามาในตำแหน่งแร็ปเปอร์ของวง แต่สุดท้ายหนุ่มร่างสูงโปร่งราวกับนายแบบคนนี้ก็ได้อยู่ในตำแหน่ง Vocal และ Visual แทน Seonghwa มีเอกลักษณ์ที่สุดในเรื่องการแสดงบนเวที ด้วยเสียงร้องที่มั่นคง ท่าเต้นที่แข็งแรง และการแสดงออกทางสีหน้าที่เฉียบคม แตกต่างกับบุคลิกนอกเวทีที่เป็นคนเรียบร้อย อ่อนโยน และมีอารมณ์ขันของเขาโดยสิ้นเชิง Seonghwa ยังได้เป็น Center ของเพลงหลายๆ เพลงมาตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ และในปี 2024 เขาก็ได้แร็ปอย่างเต็มรูปแบบร่วมกับ Hongjoong ในเพลง MATZ และเข้าร่วมชมโชว์ของ Isabel Marant
Yunho
Jeong Yun Ho (จอง ยุนโฮ ตำแหน่ง : Main Dancer, Vocal เกิด 23 มีนาคม 1999 บ้านเกิด : Gwangju, เกาหลีใต้) สมาชิกวงที่เข้ามาอยู่ที่ค่าย KQ Entertainment ต่อจาก Hongjoong ทั้งยังเป็นสมาชิกที่ตัวสูงที่สุดในวง (186 เซนติเมตร) เขาเข้ามาอยู่ในตำแหน่ง Main Dancer มีความสามารถในการเต้น Yunho ยังช่วยคิดท่าเต้นให้กับวงในบางครั้งด้วย ในด้านการร้อง ยุนโฮมักได้ขึ้นร้องเป็นลำดับแรกๆ ในหลายเพลง และมักได้ร้องท่อนสำคัญเช่นกัน ปี 2021 ยุนโฮรับบทบาทหลักในซีรี่ส์เรื่อง Imitation ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังชีวิตและความยากลำบากของเหล่าไอดอลที่ต่างก็ใฝ่ฝันที่จะประสบความสำเร็จ ในซีรี่ส์นี้ยังมีสมาชิกในวงอีก 3 คน ได้แก่ Jongho, Seonghwa และ San มาร่วมเป็นนักแสดงสมทบ และยังมีข่าวลือว่าเขาจะมีผลงานแสดงเรื่องใหม่อีกครั้งในปี 2025
Yeosang
Kang Yeo Sang (คัง ยอซัง ตำแหน่ง : Vocal, Dancer, Visual เกิด 15 มิถุนายน 1999 บ้านเกิด : Pohang, เกาหลีใต้) สมาชิกที่มีประสบการณ์กับการเป็นเด็กฝีกในค่ายใหญ่อย่าง BigHit Entertainment (ค่ายเดียวกับ BTS และ Tomorrow X Together) ก่อนย้ายมาที่ KQ Entertainment ด้วยเหตุผลบางอย่าง ถึงจะเป็นความคิดที่เหมือนจะบ้าบิ่นที่ยอมทิ้งโอกาสจากหนึ่งในค่าย Big 4 มาอยู่ค่ายใหม่ที่ยังไม่มีศิลปินในค่ายที่เดบิวต์แล้วสักราย แต่ต้องยอมรับว่านี่คือโชคชะตาที่เขาเลือกเอง และมันคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดสำหรับเขาแล้ว แม้จะตัวเล็กแต่ Yeosang มีร่างเกายที่แข็งแกร่ง เขามีไลน์เต้นที่งดงามและมั่นคง ทั้งยังมีเสียงร้องที่นุ่มลึกและบุคลิกภาพที่สุขุม ทำให้ตัวเขามีแฟนคลับทั่วโลกเป็นจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว
San
Choi San (ชเว ซาน ตำแหน่ง : Vocal เกิด 10 กรกฎาคม 1999 บ้านเกิด : Namhae, เกาหลีใต้) สมาชิกวงที่มีใบหน้าคมคายแบบ Asian Look ผู้นี้ค่อยๆ เติบโตและพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด จากตำแหน่งแรกเริ่มที่เป็นนักร้องหลักของวง San ทายาทของโรงฝึกเทควันโดผู้นี้ ได้กลายเป็น Performer ที่มีศักยภาพสูงมากคนหนึ่ง จากความรู้สึกส่วนตัวที่ที่รู้สึกว่าการเต้นของเขายังตามหลังคนอื่น San ได้พัฒนาทั้งทักษะและร่างกายได้อย่างน่าอัศจรรย์จนราวกับเป็นคนละคน เขายังเป็นสมาชิกคนที่สองของวงที่ก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นต่อจาก Hongjoong จากการเป็นแขกของ Dolce & Gabbana ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นแฟชั่นไอคอนของวงการ K-Pop ในปี 2024 อีกด้วย
Mingi
Song Min Gi (ซง มินกิ ตำแหน่ง: Main Rapper, Dancer เกิด 9 สิงหาคม 1999 บ้านเกิด : Incheon, เกาหลีใต้) ชายหนุ่มร่างสูงที่มีความสามารถในการแร็ป Mingi มีโทนเสียงต่ำที่แตกต่างจาก Hongjoong การแร็ปของพวกเขาจึงผสานกันได้ดีและกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของวง ATEEZ ทั้งนี้ Mingi เคยหยุดพักเพื่อรักษาสภาพจิตใจไปในช่วงหนึ่งในปี 2020 เป็นเวลา 8 เดือน ก่อนจะกลับมาเป็นกำลังสำคัญให้วงจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการรักษาตัวของ Mingi แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของค่ายเพลงและความสามัคคีของคนในวงที่สามารถทำหน้าที่แทน Mingi ได้ ในปลายปี 2024 Mingi ยังได้เป็น Face ของ Clavin Klein ในแคมเปญคอลเลกชั่นสำหรับวันหยุดอีกด้วย
Wooyoung
Jung Woo Young (จอง อูยอง ตำแหน่ง : Dancer, Vocal เกิด 26 พฤศจิกายน 1999 บ้านเกิด : Goyang, เกาหลีใต้) สมาชิกที่มีเสน่ห์ล้นเหลือของ และเคยเป็นเด็กฝึกใน BigHit Entertainment เช่นเดียวกับ Yeosang เขาตัดสินใจติดตามเพื่อนสนิทมาที่ KQ Entertainment เช่นกัน Wooyoung เป็นสมาชิกที่โดดเด่นในด้านเสน่ห์บนเวทีและเสียงร้องหวานเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีทักษะการแสดงสูง ซึ่ง Wooyoung เข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการคนที่ 8 หรือเป็นคนสุดท้ายของ ATEEZ นั่นเอง
Jongho
Choi Jong Ho (ชเว จงโฮ ตำแหน่ง Main Vocal, น้องเล็กของวง เกิด 12 ตุลาคม 2000 บ้านเกิด Seoul, เกาหลีใต้) สมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุด หรือที่เรียกกันว่า ‘มักเน่’ ของวง Jongho ถือเป็นนักร้องหลักของวง ATEEZ และเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับการแสดงของวงให้แข็งแกร่งจนมีคนตั้งฉายาให้เขาเป็นหนึ่งใน Vocal of Generation 4 นอกจากนี้ Jongho ยังได้ร่วมร้องเพลงประกอบซีรี่ส์เรื่องดังอย่างเพลง Gravity (Ost. Reborn Rich), Wind (Ost. Our Blooming Youth), Fairy Tale of Youth (OST. Young Actors’ Retreat MT) โดยเพลงล่าสุดก็คือเพลง A Day ในซีรี่ส์ Lovely Runner นั่นเอง
‘8 Makes 1 Team’ เป็นคำกล่าวที่เหมือนเป็นคำพูดประจำของวงเพื่อให้เห็นความรักและความสามัคคีของพวกเขา ทั้งนี้พวกเขายังมีแหวนรูป Infinity 8 วงที่ออกแบบโดย Hongjoong และมอบให้สมาชิกทุกคนสวมไว้อีกด้วย
ATEEZ เป็นวงที่มาจากค่ายเล็กแต่ใส่ใจในตัวศิลปิน
ค่ายของ ATEEZ คือ KQ Entertainment บริษัทด้านธุรกิจบันเทิงที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดย Kim Gyu-Wook ที่มีประสบการณ์ไม่น้อยในวงการ K-Pop
สำหรับ ATEEZ นั้น ถือว่าเป็นศิลปินวงแรกของค่าย โดยมี Hongjoong เป็นสมาชิกคนแรกของค่าย เขาทำงานในฐานะโปรดิวเซอร์ตามลำพังในช่วงแรก ก่อนจะได้พบกับสมาชิกของเขาแต่ละคนในเวลาต่อมา ว่ากันว่า KQ ไม่ได้มีแผนจะสร้างบอยกรุ๊ปแต่อย่างใด แต่เพราะ Hongjoong เด็กหนุ่มที่มีความฝันในวัยเพียง20 ต้นๆ ได้ยื่นผลงานเพื่อสมัครเข้ามาเป็นโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลง ผู้บริหารของค่ายจึงได้มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา
สิ่งที่ทำให้ ATEEZ มัดใจผู้คนได้ส่วนหนึ่งคือการที่ ATEEZ ไม่ใช่วงที่มาจากค่ายใหญ่หรือที่เรียกว่า Big 4 ของเกาหลี แต่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้จากผลงานเพลง กิจกรรมต่างๆ และการแสดงบนเวที รวมถึงยังสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ ทั้งในโซนยุโรปและทวีปอเมริกาอีกด้วย
ปัจจุบัน KQ Entertainment มีศิลปินในความดูแล 2 กลุ่มในการดูแล คือ ATEEZ และวงรุ่นน้องอย่าง Xikers ซึ่งวงหลังนี้มีสมาชิกเป็นคนไทย 1 คนคือ Hunter หรือ ปภังกร เลิศเกียรติดำรงค์ นั่นเอง แต่ถึงแม้จะเป็นค่ายเล็กแต่ KQ Entertainment ก็ทุ่มทุนกับโปรดักชั่นต่างๆ ของวง ATEEZ อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโปรดักชั่น มิวสิควีดีโอ รายการ และเสื้อผ้าของสมาชิกทั้ฝ 8 คน ทั้งยังให้อิสระกับการทำผลงานและการโปรโมทตัวเองของศิลปินอีกด้วย
VDO การซ้อมสำหรับการแสดงที่ Coachella
การแสดงที่แข็งแกร่งและโชว์ที่ Coachella 2024
ATEEZ มักได้รับการชื่นชมในเรื่องการแสดงบนเวทีที่ยอดเยี่ยม กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ได้ยกย่องให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน Leaders of The Fourth Generation of K-Pop แล้ว ผู้ชมบางกลุ่มขนานนามว่าพวกเขาเป็นว่าเป็น 1 ใน Performance King หรือวงที่มีการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Generation 4 โดยบทพิสูจน์ที่ชัดเจนคือการที่พวกเขาได้เป็นวง K-Pop ชายวงแรกที่ได้ขึ้นแสดงเทศกาลดนตรี Coachella ในเดือนเมษายน 2024 และได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมและสื่อต่างประเทศ โดยครั้งนั้น ATEEZ ได้แสดงกับวงดนตรีสดทำให้ได้อารมณ์ของ Rock ‘n’ Roll การแสดงของพวกเขาจึงหนักหน่วงมากกว่าปกติ ทั้งยังทำให้เข้าถึงผู้ชมใหม่ที่ยังไม่ได้เป็นแฟนของวงได้อย่างกว้างขวาง
หลังจากเวที Coachella ในเดือนมิถุนายน 2024 ATEEZ ยังเดินทางไปโมร็อกโก ประเทศที่พวกเขาเคยถ่ายทำ Music Video แรกของวง เพื่อไปร่วมแสดงในงาน Mawazine เทศกาลดนตรีและวัฒนธรรมระดับนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปีในกรุงราบัต และเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ ATEEZ ถือเป็นศิลปิน K-Pop กลุ่มแรกที่ได้เล่นบนเวทีนี้อีกด้วย
VDO บันทึกการเตรียมพร้อมและการแสดงในงาน Mawazine Festival
K-Pop กลุ่มแรกที่ได้จัดนิทรรศการ Pop-Up ร่วมกับ GRAMMY Museum
ในปี 2024 ATEEZ นับเป็นศิลปินกลุ่มแรกที่ได้จัดนิทรรศการพิเศษร่วมกับ Grammy Museum ในสหรัฐอเมริกาในชื่อ ‘KQ ENT. (ATEEZ & Xikers): A GRAMMY Museum Pop-Up’ ซึ่งเป็นนิทรรศการพิเศษที่นำเสนอเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ประกอบฉากจากมิวสิกวิดีโอของ ATEEZ และวง Xikers รุ่นน้องในสังกัดเดียวกัน ก่อนที่จะมีกิจกรรมสนทนาในวันที่ 22 กรกฎาคม 2024 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของนิทรรศการ ATEEZ ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมสนทนาที่ Clive Davis Theater ภายใน GRAMMY Museum โดยมี Emily Mei เป็นผู้ดำเนินรายการ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลงานเพลง กระบวนการสร้างสรรค์ และประสบการณ์การแสดงที่ Coachella ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับช่วงที่เริ่มจัดนิทรรศการ
เอกลักษณ์ของดนตรี ท่าเต้นที่จับใจผู้คน
เพลงของ ATEEZ เป็นเพลง Pop-Dance มีกลิ่นอายของ Hip-Hop และ EDM ที่ชัดเจน แต่แตกต่างด้วยไลน์การร้องที่ทรงพลังโดยสมาชิกของวงอย่าง Jongho และเสริมทัพด้วย San ที่มีสุ้มเสียงที่ไพเราะมีสไตล์ ATEEZ ยังมีสองแร็ปเปอร์ที่มีสไตล์ที่แตกต่างกันอย่าง Hongjoong ซึ่งเป็นกัปตันของวงซึ่งมีเสียงแร็ปในโทนที่สูง มีสไตล์เฉพาะตัว ส่วนอีกคนคือ Mingi ที่แร็ปในสไตล์โทนเสียงต่ำ หนักหน่วง รุนแรง ช่วยส่งเสริมเพลงแต่ละท่อนกันได้อย่างโดดเด่น ส่วนท่าเต้นของ ATEEZ ในหลายๆ เพลงถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างชาญฉลาดเพื่อให้เป็นท่าเต้นที่จำได้ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นท่าเต้นที่วัดทักษะของผู้เต้นไปในตัว ไม่ว่าจะเป็นท่าเต้นของเพลง Bouncy (K-Hot Chilli Peppers), Work, Deja Vu ทั้งนี้ ATEEZ ได้รับคำชื่นชมจากสื่อต่างประเทศว่าเป็นวง K-Pop ที่มีอัจฉริยภาพในการแต่งเพลง และมักจะทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ยกตัวอย่าง Ice On My Teeth จากอัลบั้ม Golden Hour : Part.2 ที่ได้มีการผสมเครื่องสายอย่างไวโอลินและเสียงเปียโนเข้าไป เป็นการยกระดับเพลง Hip Hop ให้มีเสน่ห์เปี่ยมเอกลักษณ์มากขึ้น และยังมีเพลง Selfish Waltz และเพลงที่เหลืออีก 3 เพลง ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากเหล่านักวิจารณ์หลายรายจากทั่วโลกเช่นกัน
Music Video เพลงที่ได้รับความนิยมและถ่ายทำในประเทศไทย
โจรสลัดแห่งวงการ K-Pop คอนเซ็ปต์ที่เป็นหัวใจ ฉายา และคำสาปของวง
ATEEZ ยังมีการนำเสนอตัวเองในธีม ‘โจรสลัด’ ซึ่งตอนแรกอาจตั้งใจตั้งขึ้นเพื่อเป็นการนำเสนอภาพลักษณ์และเพลงของวงเท่านั้น ทั้งยังทำให้ ATEEZ น่าจะเป็นวงเดียวในวงการ K-Pop ที่เรียก Hongjoong ผู้นำของวงด้วยคำว่า ‘กัปตัน’ แต่ในเวลาต่อมาสื่อต่างประเทศก็เริ่มเรียกว่าพวกเขาคือ ‘โจรสลัดของวงการ K-Pop’ เพราะการแสดงที่แหวกแนว และบทเพลงที่มีความเป็นสากล และอาจหมายถึงการที่พวกเขาเป็นศิลปินจากประเทศเกาหลีใต้ที่ต้องเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อออกมาแสดงคอนเสิร์ตบ่อยครั้ง แต่การเป็นโจรสลัดนั้น อาจมีความหมายอีกอย่างคือการอยู่นอกกรอบ นอกกระแสหลัก หรือขนบธรรมเนียม หรืออีกนัยหนึ่งคือการไม่ใช่วงที่อยู่ในค่าย Big 4 ของเกาหลีใต้ พวกเขาจึงต้องสู้ยิบตาด้วยกำลังของตัวเองท่ามกลางอุตสาหกรรมเพลงที่เติบโตและเต็มไปด้วยเส้นสายก็เป็นได้
โปรดักชั่น Music Video ในระดับ International
แม้จะเป็นค่ายขนาดเล็กแต่ KQ Entertainment ก็ทุ่มเทกับการสร้างสรรค์ Music Video ให้ Ateez มาตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ ไม่ว่าจะเป็น The Real, Bouncy (K-Hot Chilli Peppers), Wonderland, Thanxx และ Ice On My Teeth โดยมี Music ที่ถ่ายทำในประเทศไทยด้วย นั่นก็คือ Halazia ที่วังมัจฉา (สถานที่เดียวกับเพลง Rockstar ของ Lisa) และ Bouncy (K-Hot Chilli Peppers) ในพื้นที่หนึ่งของกรุงเทพมหานครเช่นกัน
Music Video เพลง Halazia ที่ถ่ายทำในประเทศไทย
การ Live และสื่อสารกับแฟนคลับที่สม่ำเสมอ
ATEEZ มีช่องทางการโปรโมทและสื่อสารกับกลุ่มแฟนคลับที่เรียกตัวเองว่า Atiny ในแอปพลิเคชั่น TokToq โดย KQ Entertainment ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรี แต่หากต้องการรับชมคอนเท้นต์พิเศษของเหล่าสมาชิก 8 คน เช่นการโพสต์ข้อความส่วนตัวและการ Live ของแต่ละคนก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามลำดับ ทั้งนี้ Live ของ ATEEZ นั้นเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยครั้ง และศิลปินค่อนข้างที่จะมีอิสระในการ Live ของตัวเอง ความเป็นกันเองและอารมณ์ขันของพวกเขา ทำให้แฟนๆ รู้สึกมีส่วนร่วมและผูกพันกับศิลปินยิ่งขึ้น
ATEEZ กับวงการแฟชั่น
เช่นเดียวกับศิลปิน K-Pop รายอื่นๆ ATEEZ ได้ไปปรากฏตัวบนปกและเซ็ตแฟชั่นในนิตยสารชื่อดังมากมาย รวมถึงงาน Fashion Week ทั้งในและต่างประเทศ โดยในปีนี้มีสมาชิกที่ได้เดินทางไปชมโชว์ต่างๆ ในฐานะแขกคนพิเศษของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น San ที่สร้างเสียงฮือฮาจากการปรากฏตัวครั้งแรกในโชว์ Dolce & Gabbana Alta Moda ที่ซาร์ดิเนีย และสวมใส่เสื้อเกราะแบบนักรบโบราณจากคอลเลกชั่นโอต์กูตูร์ Dolce Gabbana Spring – Summer 2025 ในช่วง Milan Fashion Week เขากลับมาสะกดสายตาผู้คนอีกครั้งด้วยโค้ทตัวยาวและ Total Look สีขาวครีม ในงานนี้เขาได้พบคนสำคัญมากมายอย่าง Madonna ที่กดติดตามวง ATEEZ ใน Instagram ของเธอในภายหลัง
พี่ใหญ่ของวงอย่าง Seonghwa ปรากฏตัวในโชว์ของ Isabel Marant Spring – Summer 2025 ในปารีสที่เขาขอเลือกที่จะใส่ชุดจากคอลเลกชั่นของผู้หญิงแทนผู้ชายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องแฟชั่นที่ไร้การแบ่งแยกชายหญิง Wooyoung สมาชิกอีกคนก็ปรากฏตัวในปารีสเพื่อชมโชว์ของ Courrèges Spring – Summer 2025 ในชุดเดนิมสีเทาอ่อนที่แสดงถึงบุคลิกสบายๆ ขี้เล่นและเป็นกันเองของเขา
Hongjoong กัปตันของวงปรากฏตัวใน Paris Fashion Week ถึง 2 โชว์ด้วยกันคือ Balmain Spring-Summer 2025 เขาเข้าร่วมงานในชุดเบลเซอร์สีดำปักคำว่า ‘love’ ด้วยด้ายสีทอง คู่กับรองเท้าบู๊ตส้นสูงสีดำ ทั้งนี้ Hongjoong ยังเป็นหนึ่งใน Balmain Army หรือกลุ่ม Global Brand Ambassador ของ Balmain นั่นเอง ต่อจากนั้น Hongjoong ก็ไปร่วมชมโชว์ของ Vivienne Westwood Spring-Summer 2025 อีกด้วย
สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ อย่าง Yunho ก็ได้เข้าร่วมชมโชว์ของดีไซเนอร์ Kwak Hyun Joo ใน Seoul Fashion Week ในด้านอื่นๆ ของวงการแฟชั่นในเดือนธันวาคม 2024 Mingi แร็ปเปอร์ของวงก็ได้เป็น Face สำหรับคอลเลกชั่นวันหยุดของ Calvin Klein
อนาคตของ ATEEZ ในวงการเพลง K-Pop
ปี 2025 จะเป็นปีที่ ATEEZ ครบสัญญา 7 ปีกับค่าย KQ Entertainment ซึ่งมี % สูงที่จะต่อสัญญาเพราะความผูกพันที่ดีของค่ายและศิลปิน แต่สิ่งที่แฟนๆ กังวลคือการเข้ากรมทหารของสมาชิกทั้ง 8 คน โดยเฉพาะสมาชิกที่เกิดในปี 1998 และ 1999 ซึ่งอาจทำให้ความเคลื่อนไหวของวงอาจต้องสะดุดลงบ้าง แต่หลายคนก็เชื่อว่า KQ Entertainment หรือแม้แต่เหล่าสมาชิกเองน่าจะมีแผนรับมือกับเรื่องนี้ไว้อยู่บ้าง ทั้งนี้ยังไม่มีความคิดเห็นใดๆ ออกมาจากสมาชิกหรือค่ายเพลงอย่างเป็นทางการ ถึงอย่างไรในปี 2025 ก่อนเข้ากรมทหาร ATEEZ ก็มีตารางทัวร์ในยุโรปและทวีปอื่นๆ แน่นเอี๊ยด และคาดว่าจะมีอัลบั้มและเพลงออกมาให้แฟนๆ ได้ชื่นชมอีกอย่างแน่นอน
#BAZAARThailand #BAZAARMusic #ATEEZ #KQEntertainmemt