Monday, January 20, 2025
More

    รวม 5 ไฮไลต์เด็ดจาก Apple ทั้งโปรดักต์ใหม่และซอฟท์แวร์ที่ฉลาดเหลือเชื่อ

    on

    - Advertisement -

    เมื่อไม่นานมานี้ทาง Apple ได้ประกาศถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ และเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาล่าสุด เหมือนเช่นทุกๆ ปี เราจึงคัด 5 ไฮไลต์ที่จะสร้างสีสันให้กับการใช้ชีวิตขึ้นไปอีกขั้น

    iPadOS 18

    Apple เผยโฉมตัวอย่าง  iPadOS 18 ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPad ในแบบที่อเนกประสงค์และชาญฉลาดยิ่งกว่าที่เคย และใน iPadOS 18 ยังมีแอปเครื่องคิดเลขพร้อมด้วย Math Notes รวมถึงเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับการเขียนด้วยลายมือในแอปโน้ต ซึ่งทั้งหมดออกแบบมาสำหรับ Apple Pencil ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ผู้ใช้ iPad ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมและศูนย์ควบคุมได้หลายวิธีมากขึ้น และใน iPadOS 18 ยังมีการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับแอปรูปภาพ รวมถึงวิธีใหม่ๆ ในการสื่ออารมณ์ในแอปข้อความ

    Hi-Light  เครื่องคิดเลข Math Notes แบบใหม่หมดให้ผู้ใช้พิมพ์หรือเขียนนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ หรือ mathematical expressions แล้วโจทย์ดังกล่าวก็จะถูกแก้ในทันทีในลายมือของผู้ใช้เอง และยังสามารถกำหนดค่าให้กับตัวแปรในระหว่างที่เรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ ในชั้นเรียน คำนวนงบประมาณ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการเขียนกราฟใหม่ที่ให้ผู้ใช้เขียนหรือพิมพ์สมการแล้วใส่กราฟด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว หรือจะใส่หลายๆ สมการในกราฟเดียวเพื่อดูความสัมพันธ์ของแต่ละสมการก็ยังได้ และ Math Notes จะเข้าไปอยู่ในโฟลเดอร์ Math Notes ใหม่โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้เปิดดูได้จากในแอปโน้ตอีกด้วย

    Apple Vision Pro

    Apple Vision Pro เวอร์ชั่นใหม่ visionOS 2 มาพร้อมวิธีการอันทรงพลังที่ทำให้ผู้ใช้สร้างสรรค์รูปภาพเชิงมิติพื้นที่ได้ด้วยภาพในคลังที่มีอยู่แล้ว และยังมีคำสั่งมือที่เข้าใจง่าย ทำให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับจอภาพเสมือน Mac, โหมดเดินทาง และการใช้งานในสถานะผู้ใช้ทั่วไป การอัปเดตดังกล่าวทำให้ผู้ใช้ Vision Pro สามารถค้นหารูปภาพโปรดเชิงมิติพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วในแอปรูปภาพโฉมใหม่ ทั้งยังจัดการข้อมูลในทุกบัญชีได้ด้วยแอปรหัสผ่านใหม่ เข้าถึงเครื่องมือความเป็นส่วนตัวใน Safari และสัมผัสความสามารถใหม่ๆ ในแอปยอดนิยม เช่น Apple TV และแอปทำสมาธิ ปัจจุบันมีแอปเชิงมิติพื้นที่มากกว่า 2,000 แอป ที่ออกแบบมาเพื่อ Apple Vision Pro และอีกกว่า 1.5 ล้านแอป iOS และ iPadOS ที่ใช้งานร่วมกันได้ กล่าวได้ว่า visionOS 2 ทำให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้นด้วยเครื่องมือใหม่ๆ และยังสร้างสรรค์ประสบการณ์แอปแบบใหม่หมดได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม โดยมีลักษณะเชิงปริมาตรในมิติที่สมจริงยิ่งขึ้นและยังแชร์ให้คนอื่นๆ ได้ด้วย

    Hi-Light  Apple Vision Pro visionOS เปิดตัวพร้อมกับการรองรับอินเทอร์เฟซเชิงมิติพื้นที่สุดล้ำ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ด้วยดวงตา มือ และเสียง และใน visionOS 2 นั้น การไปยังส่วนต่างๆ ของ Apple Vision Pro ก็ยิ่งเร็วและง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญๆ ด้วยคำสั่งมือแบบใหม่ที่ช่วยในการเข้าถึงคุณสมบัติที่ใช้บ่อย เช่น มุมมองบ้านและศูนย์ควบคุม อีกทั้งคำสั่งมือแบบใหม่ยังทำให้ผู้ใช้มองเห็นข้อมูลสำคัญได้ง่ายเพียงแค่เหลือบมอง เช่น เวลาปัจจุบัน ระดับแบตเตอรี่ และยังควบคุมสั่งการได้ด้วย เช่น การปรับระดับเสียง

    MacOS Sequoia

    Apple เผยโฉมตัวอย่าง macOS Sequoia เวอร์ชั่นต่อไปของระบบปฏิบัติการบนเดสก์ท็อปที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก และนำวิธีการทำงานใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติอัจฉริยะระดับพลิกวงการมาสู่ Mac เรียกได้ว่า macOS Sequoia อัดแน่นไปด้วยความสามารถใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น อย่างการสะท้อนหน้าจอ iPhone ที่ช่วยขยายขีดความสามารถของคุณสมบัติความต่อเนื่องให้สามารถเข้าถึงและควบคุม iPhone ได้โดยตรงจาก macOS ส่วน Safari ก็ได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยมาพร้อม Highlights เพื่อให้สามารถค้นพบข้อมูลต่างๆ บนเว็บเพจได้อย่างง่ายดายในระหว่างท่องเว็บ ขณะที่แอปรหัสผ่านใหม่ช่วยให้เข้าถึงรหัสผ่านและจัดระเบียบข้อมูลประจำตัวทั้งหมดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมในที่เดียว และสัมผัสกับอีกขั้นของการเล่นเกมกับประสบการณ์ที่เต็มอิ่มสมจริงยิ่งกว่าเดิม พร้อมหลากหลายเกมใหม่ที่น่าทึ่งอย่าง Assassin’s Creed Shadows, Frostpunk 2 และอีกมากมาย

    Hi-Light macOS Sequoia เติมความมหัศจรรย์ให้คุณสมบัติความต่อเนื่องด้วยการใช้งานการสะท้อนหน้าจอ iPhone ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงและใช้งาน iPhone ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบจากบน Mac โดยผู้ใช้จะได้เห็นภาพพื้นหลังที่ตัวเองเลือกและไอคอนต่างๆ แบบเดียวกับบน iPhone และยังสามารถปัดระหว่างหน้าต่างๆ บนหน้าจอโฮม หรือเลือกใช้งานแอปโปรดได้อีกด้วย การโต้ตอบกับ iPhone ก็สามารถทำได้ผ่านคีย์บอร์ด แทร็คแพด และเมาส์จากบน Mac และเสียงก็ตามมาด้วยเช่นกัน ผู้ใช้ยังสามารถลากแล้วปล่อยระหว่าง iPhone กับ Mac ได้อย่างราบรื่น โดยที่ iPhone จะยังคงล็อคอยู่ จึงไม่มีใครสามารถเข้าถึงหรือเห็นว่าผู้ใช้กำลังทำอะไร และยังทำงานร่วมกับโหมดสแตนด์บายที่เห็นได้ตลอดอย่างยอดเยี่ยม ผู้ใช้จึงสามารถรับข้อมูลได้เพียงแค่เหลือบมอง นอกจากนี้ ยังสามารถดูและโต้ตอบการแจ้งเตือนของ iPhone ได้โดยตรงจากบนเครื่อง Mac อีกด้วย

    WatchOS 11

    watchOS 11 มาพร้อมด้วยคุณสมบัติที่ต่อยอดจากเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ชั้นนำ อัลกอริทึมขั้นสูง และแนวทางตามหลักวิทยาศาสตร์ของ Apple Watch เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกสุดล้ำเกี่ยวกับสุขภาพและความฟิตของผู้ใช้ ตลอดจนการปรับแต่งที่มากกว่าที่เคย แอป Vitals ใหม่จะแสดงตัวชี้วัดที่สำคัญเกี่ยวกับสุขภาพและบริบทที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้นในแต่ละวัน และความสามารถของ Apple Watch ในการวัดความหนักในการฝึกซ้อมจะช่วยมอบประสบการณ์ใหม่ที่เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงความฟิตและประสิทธิภาพในการออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้น วงแหวนกิจกรรมสามารถปรับแต่งได้มากกว่าเดิม ขณะที่วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและหน้าปัดรูปภาพต่างก็ใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อนำเสนอสิ่งที่เข้ากับผู้ใช้แต่ละรายมากขึ้น นอกจากนี้ Apple Watch และแอปสุขภาพบน iPhone และ iPad ยังมอบการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย และวันนี้ คุณสมบัติเช็คอิน แอปแปลภาษา และความสามารถใหม่ๆ ของคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” ก็พร้อมใช้งานบน Apple Watch เช่นกัน เพื่อการเชื่อมต่อกับเรื่องต่างๆ และความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น

    Hi-Light Apple Watch ช่วยให้เราสามารถวัดข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญระหว่างการนอนหลับ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ อุณหภูมิที่ข้อมือ ระยะเวลาการนอนหลับ และออกซิเจนในเลือด ขณะที่แอป Vitals ใหม่ใน watchOS 11 จะช่วยให้ผู้ใช้ดูตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจบริบทเกี่ยวกับสุขภาพของตนได้ดีขึ้น Apple Watch จะวิเคราะห์ข้อมูลตัวชี้วัดเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะสุขภาพประจำวันพร้อมทั้งดูตัวชี้วัดที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็ว และเห็นตัวชี้วัดที่อยู่นอกเกณฑ์ปกติได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้สามารถรับการแจ้งเตือนเมื่อตัวชี้วัดตั้งแต่สองตัวขึ้นไปอยู่นอกเกณฑ์ปกติ และดูข้อความแสดงรายละเอียดว่าการเปลี่ยนแปลงในตัวชี้วัดเฉพาะเหล่านี้ อาจเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง เช่น ระดับความสูงที่มีการเปลี่ยนแปลง การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ความเจ็บป่วย

    HomePod 2 And HomePod mini

    HomePod (รุ่นที่ 2) และ HomePod mini เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำประสบการณ์เสียงอันน่าประทับใจมาสู่ทุกพื้นที่ของบ้าน โดย HomePod ใหม่ซึ่งออกแบบมาให้ทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว ใช้ประโยชน์จากระบบเสียงเชิงคำนวณสุดล้ำในการมอบระบบเสียงอะคูสติกอันล้ำสมัย ขณะที่ HomePod mini จะมอบพลังเสียงที่ยิ่งใหญ่ในดีไซน์แบบกะทัดรัด โดยเราสามารถรับฟังแคตตาล็อกเพลงกว่า 100 ล้านเพลงใน Apple Music1 ผ่าน HomePod และ HomePod mini ได้เพลิดเพลินไปกับเสียงที่ดังกระหึ่มทั่วห้องด้วยลำโพงเพียงตัวเดียวในแบบคู่สเตอริโอ และใช้ระบบเสียงที่เล่นพร้อมกันในหลายห้อง หรือสร้างประสบการณ์โฮมเธียเตอร์ที่สมจริงด้วย Apple TV 4K และยังสามารถใช้ Siri เพื่อเข้าถึงความรู้ด้านดนตรี หรือจะค้นหาเพลงตามชื่อศิลปิน ชื่อเพลง เนื้อร้อง ปีทศวรรษ แนวเพลง อารมณ์เพลง หรือตามกิจกรรม ก็ทำได้เช่นกัน ลำโพงทั้งสองซึ่งอัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ และความอัจฉริยะของ Siri มอบวิธีการอันสะดวกสบายในการจัดการกับภารกิจประจำวันและการควบคุมระบบบ้านอัจฉริยะ นอกจากนี้รูปลักาณ์ยังเรียบหรูเหมาะกับการแต่งบ้านทุกสไตล์อีกด้วย

    Hi-Light การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน iPhone เช่น เพลงโปรด พ็อดคาสท์ หรือแม้แต่สายที่โทรค้างอยู่ มาเปิดเล่นต่อที่ HomePod หรือ HomePod mini ได้โดยตรง ทุกคนในบ้านสามารถควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่ หรือรับเพลงที่คัดสรรตามผู้ใช้ และการแนะนำพ็อดคาสท์ได้ง่ายๆ เพียงนำ iPhone มาอยู่ใกล้กับ HomePod หรือ HomePod mini แล้วคำแนะนำจะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ กลุ่มผลิตภัณฑ์ HomePod ยังจดจำเสียง

    #BAZAARTech #Gadgets #Apple #AppleTH #iPhone #iPad #MacOS #AppleWatch