เรียกได้ว่านาทีนี้ความฮ็อตของศิลปินเจนใหม่ของไทยปลุกกระแส T-Pop ไปทั่วโลก แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะถูกยกขึ้นมาเป็น Rising Star ที่ได้รับการยอมรับ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ 4 หนุ่ม ปอนด์ – ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์, โฟร์ท – ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล, ภูวิน – ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน และ เจมีไนน์ – นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ ถูกยกให้เป็นผู้สานต่อความฮ็อตเข้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแบรนด์อเมริกันแฟชั่น Tommy Hilfiger
อดีต ปัจจุบัน อนาคต… ในปี 1985 ชื่อ Tommy Hilfiger กลายเป็นที่รู้จักอันรวดเร็วด้วยสไตล์ที่แฝงไปด้วยความเรียบเท่ในแบบลำลองของเสื้อผ้าสไตล์อเมริกันเพร็พ ไม่เพียงสวมใส่สบาย ยังมากับสีเอกลักษณ์เด่นของ สีขาว แดง และกรมท่า และแม้ว่าเทรนด์แฟชั่นในโลกปัจจุบันจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเร็วขนาดไหน แต่ความคลาสสิกของแฟชั่นสไตล์อเมริกันเพร็พ ก็ไม่เคยจางหายและหลุดกระแส ด้วยเป็นสไตล์การแต่งตัวที่ลิ้งค์เข้ากับความมีรสนิยมในแบบที่ไม่ต้องป่าวประกาศว่าฉันคือใคร แถมแฝงความสนุก เอนเนอร์จี้ใหม่ๆ ที่พร้อมจะถูกหยิบมาดัดแปลงกับทุกไลฟ์สไตล์ได้ตลอดเวลา
ดีเอ็นเอในสไตล์ American Prep แฟชั่นที่ลงตัวในทุกวัน แต่ยังคงคาแรกเตอร์ในแบบตัวเองที่มั่นใจ ได้เชื่อมโยงเข้ากับศิลปินรุ่นใหม่ทั้ง 4 คน ในฐานะ Brand Ambassador of Tommy Hilfiger แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ความสามารถผลงานทางด้านการแสดงหรือดนตรีที่โดดเด่น ในโลกแฟชั่นด้านตัวตนและสไตล์ก็สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้ไม่น้อย จนทำให้มีฟอลโลวเวอร์ในโลกโซเชียลระดับไม่ธรรมดา และมีแฟนคลับโกลบอลที่คอยซัพพอร์ตในเวลาอันรวดเร็วแม้จะเข้าวงการบันเทิงเพียงแค่ราว 2-3 ปี ก็ตาม ทั้งยังสามารถสร้างมูลค่าสื่อบนโลกโซเชียลติดในลิสต์ 10 อันดับแรกที่มี EMV (Earned Media Value) สูงสุด จากการเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ Tommy Hilfiger Spring/Summer 2025 ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่มหานครนิวยอร์ก
เจมีไนน์ และ โฟร์ท ทั้งคู่ได้ร่วมงานกับ Tommy Hilfiger ครั้งแรกด้วยการชิมลางในงานอีเวนต์ระดับภูมิภาคของแบรนด์ คอลเลกชั่น Fall 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 และนั่นยิ่งทำให้ Tommy Hilfiger ได้เห็นพลังทั้งจากอินเนอร์ภายในของทั้งคู่ที่สามารถสะท้อนออกมาบนโลกโซเชียลได้เหมาะกับแบรนด์อย่างเหลือเชื่อ ทั้งคู่นอกจากเป็นดาวเด่นในวงการแฟชั่นที่มีเอนเกจเมนต์สูง คาแรกเตอร์ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไร้ข้อจำกัด สนุกสนาน ได้ตอบโจทย์ในทุกข้อกับสไตล์ American Prep จนได้เข้ามาสู่ครอบครัว Tommy Hilfiger อย่างเต็มตัว ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของพวกเขาในวงการแฟชั่นระดับสากล
แม้ทั้งคู่ได้เข้าร่วมงานแฟชั่นวีคคอลเลกชั่นสุภาพบุรุษประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2024 ที่มิลานไปเมื่อต้นปี 2024 และสามารถสร้างมูลค่าสื่อบนโลกโซเชียลติดอยู่ในลิสต์ 10 อันดับแรก แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกระแสเกินต้านในแฟชั่นโชว์ Tommy Hilfiger Spring/Summer 2025 ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่มหานครนิวยอร์ก โดยทั้งคู่ได้สร้างมูลค่าสื่อบนโลกโซเชียล EMV ติดอยู่ใน 3 อันดับแรกเลยทีเดียว ทำให้เห็นว่านอกจากความสามารถในการสร้างกระแสในโลกโซเชียลแล้ว พวกเขายังสามารถเข้าใจและแสดงออกถึงสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างชัดเจน เป็นตัวอย่างของการผสมผสานความคลาสสิกของ Tommy Hilfiger กับพลังของคนรุ่นใหม่
“การได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Tommy เหมือนเป็นอีกก้าวสำคัญในเส้นทางของผม และเป็นโอกาสที่ดีในการเติบโตและพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับแบรนด์ที่ผสานวัฒนธรรมป๊อปและแฟชั่นได้อย่างลงตัว ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ถ่ายทอดสไตล์ในแบบของผมเข้ากับความคลาสสิกแบบอเมริกันของ Tommy” โฟร์ท – ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล
“การได้เป็นส่วนหนึ่งของ Tommy ไม่ใช่แค่ก้าวสำคัญ แต่เป็นความฝันที่เป็นจริง ผมชื่นชอบที่ Tommy Hilfiger สร้างสรรค์ความคลาสสิกในแบบที่ทันสมัยมาตลอด ดังนั้นการได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับไอคอนนี้เป็นเหมือนความฝันที่เกินจริงเลยครับ” เจมีไนน์ – นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์
ส่วนปอนด์ กับ ภูวิน เคมีในบทบาทคู่กันในซีรีส์ Fish Upon the Sky ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นที่รู้จักและโด่งดัง ภูวินเป็นหนึ่งคนที่น่าจับตามองในวงการแฟชั่น มีอินเนอร์ที่แสดงออกได้อย่างชัดเจน และมีกลิ่นอายของความโซเชียลที่สามารถเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการที่เขามีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟนๆ ของแบรนด์นั้น แสดงให้เห็นถึงพลังในการนำเสนอภาพลักษณ์ที่สดใหม่ให้กับ Tommy Hilfiger ความสามารถในการสะท้อนตัวตนของภูวินกับสไตล์ American Prep ยิ่งทำให้แบรนด์เห็นศักยภาพของเขาในการยกระดับแบรนด์ในกลุ่มผู้ติดตามรุ่นใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ส่วนปอนด์นั้น คาแรกเตอร์ที่ชัดเจนและการแสดงออกผ่านการเต้น เป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความโดดเด่นในตัวเอง การที่ปอนด์สามารถผสมผสานความคล่องตัวและความเป็นตัวเองกับสไตล์ American Prep ของ Tommy Hilfiger ทำให้เขามีเสน่ห์ในโลกแฟชั่น ที่ไม่เพียงแฝงไปด้วยความสนุกสนาน แต่ยังอัดแน่นไปด้วยพลังใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่
ยิ่งการที่ทั้งคู่ได้ไปปรากฏตัวในงานแฟชั่นโชว์ Tommy Hilfiger Fall/Winter 2024 ด้วยกันที่มหานครนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการไปแฟชั่นวีคของพวกเขา ยิ่งทำให้เห็นแรงกระเพื่อมสำคัญที่พวกเขามีอิทธิพลต่อโลกแฟชั่น และล่าสุดความฮ็อตของทั้งคู่ได้นำพาพวกเขากลับมาร่วมชมแฟชั่นโชว์ Tommy Hilfiger Spring/Summer 2025 อีกครั้ง โดยทั้งคู่สามารถสร้างมูลค่าสื่อบนโลกโซเชียลติดอยู่ในลิสต์ 10 อันดับแรก นั่นยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าสนใจในตัวพวกเขา พลังในการสร้างกระแสของทั้งคู่ในโลกแฟชั่นระดับสากลในระยะเวลาอันสั้น แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเชื่อมโยงโลกแฟชั่นกับโลกโซเชียลได้อย่างยอดเยี่ยม และสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ Tommy Hilfiger ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ Tommy Hilfiger นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผมครับ เพราะ Tommy ถือเป็นแบรนด์ระดับโลก การร่วมงานกันในครั้งนี้ก็เป็นมากกว่าแค่แฟชั่น เพราะยังเป็นโอกาสให้เราได้ถ่ายทอดสไตล์และตัวตนในระดับสากล” ปอนด์ – ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์
“ความพิเศษของการร่วมงานกับ Tommy Hilfiger ในครั้งนี้ คือการได้ใช้เวลาและประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนๆ อีกทั้งเรายังได้เข้าสู่ครอบครัว Tommy พร้อมกัน ทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากสำหรับผม ผมตื่นเต้นกับการผจญภัยครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงครับ” ภูวิน – ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน
ในเชิงอนาคต การร่วมงานกับทั้ง 4 ไอคอนคลื่นลูกใหม่ จะทำให้ Tommy Hilfiger สามารถขยายฐานแฟนคลับไปยังกลุ่มผู้ติดตามรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจกับสไตล์และคาแรกเตอร์ที่มีความสดใหม่ และกลุ่มคนที่มองหาแบรนด์ที่ไม่เพียงแต่คลาสสิก แต่ยังมีความทันสมัยและสอดคล้องกับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย นี่ถือเป็นระลอกคลื่นแรกใน New Era ของ Tommy Hilfiger ที่จะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการแฟชั่น มารอติดตามกันว่าหลังจากนี้จะมีเซอร์ไพร์สอะไรใหม่ๆ มาให้แฟนๆ ทั่วโลกได้ติดตามกันอีก