มรดกที่ตกทอดกันมาอย่างยาวนานของเอกลักษณ์งานช่างฝีมือแห่งแบรนด์เครื่องหนังชั้นนำระดับโลกอย่าง Tod’s ได้นำมาสู่การสร้างสรรค์ผลงานล่าสุด “Rahul Mishra X Tod’s” ซึ่งนับเป็นโปรเจกต์ใหม่ของ Tod’s Factory ที่ร่วมมือกับ Rahul Mishra นักออกแบบชาวอินเดียชื่อดัง ซึ่งได้ตีความถึงไอเท็มไอคอนิกของ Tod’s อย่างรองเท้า Tod’s Gommino กระเป๋า Tod’s Di Bag และการเลือกเครื่องประดับ Tod’s T Timeless ในรูปแบบใหม่สำหรับทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
คอลเลคชั่น Rahul Mishra X Tod’s เป็นส่วนหนึ่งของ Tod’s Factory ซึ่งเป็นห้องทดลองความคิดสร้างสรรค์ที่เชิญนักออกแบบมีชื่อเสียงและนักออกแบบรุ่นใหม่มานำเสนอความคิดและมุมมองใหม่เกี่ยวกับดีเอ็นเอและมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Tod’s โดย Tod’s Factory ได้เปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์ สามารถเข้าถึงช่างฝีมือของ Tod’s และทักษะความชำนาญเฉพาะด้าน (savoir faire) ในภูมิภาค Marche ของอิตาลี โดยการสร้างสรรค์แคปซูลคอลเลกชั่นและชิ้นงานรุ่นจำนวนจำกัดในแต่ละฤดูกาล
สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการยกย่องการผสมผสานระหว่างคุณภาพชั้นเลิศและประเพณีของช่างฝีมือชาวอิตาลี รวมไปถึงแก่นแท้ของงานฝีมือตามแบบฉบับอินเดีย ไอเท็มไอคอนิกของ Tod’s ถูกรังสรรค์ด้วยฝีมือการปักของช่าง Kaarigar ผู้เชี่ยวชาญที่สืบทอดศิลปะนี้มาหลายชั่วอายุคน และเผยให้เห็นถึงความหรูหราเหนือกาลเวลาผ่านความร่วมสมัยที่ลงตัว
คอลเลกชั่น Rahul Mishra X Tod’s ยังนับเป็นการผสมผสานความเป็นเลิศจากทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือ คุณภาพ และการออกแบบสมัยใหม่ ทำให้ชิ้นงานของ Tod’s มีความเป็นเอกลักษณ์และเหนือกาลเวลา โดยรองเท้าไอคอนิกของ Tod’s อย่างรองเท้า Gommino รองเท้า Loafers รวมถึงรองเท้าเปิดส้น ถูกตกแต่งด้วยงานปักลายดอกไม้สีสันสดใสอย่างประณีต ผ่านการทออย่างเชี่ยวชาญด้วยเส้นไหมบนหนังนัปปาสีเมทัลลิก รวมถึงบนกำมะหยี่สีดำและทองอ่อนด้วยลวดลายต้นไม้แห่งชีวิต (Tree of Life) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดีไซน์ของ Rahul Mishra กระเป๋าไอคอนิกอย่างกระเป๋า Di Bag และกระเป๋า T Timeless shoulder bag มาพร้อมงานปักอันซับซ้อนของลายดอกไม้ด้วยผ้าซารีทอง ประดับด้วยคริสตัล ลูกปัด และเลื่อมแวววาว ถือเป็นเครื่องประดับกูร์ตูร์อันล้ำค่า
“เราได้รังสรรค์ชิ้นงานไอคอนิกของ Tod’s รวมไปถึง รองเท้า Tod’s Gommino และกระเป๋า Di Bag โดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ซึ่งยังคงเป็นมิวส์ของผม การสร้างสรรค์ลวดลายคลาสสิกของผมและลวดลายของใบไม้อันเป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบของผม การได้มีโอกาสทำงานในโปรเจกต์นี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง อีกทั้งความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นสิ่งพิเศษมาก สำหรับผมแล้วการร่วมมือครั้งนี้แสดงถึงความเชี่ยวชาญด้านงานฝีมือ ความสง่างามแบบอิตาลี รวมถึงความประณีตในงานฝีมือของอินเดียอีกด้วย” Rahul Mishra กล่าว