Wednesday, April 30, 2025
More

    GUCCI: THE ART OF SILK หนังสือที่บอกเล่าความงดงามเหนือกาลเวลา พร้อมโปรเจกต์ ’90×90′ จาก 9 ศิลปินล้ำสมัย

    on

    - Advertisement -

    สมบัติทางความคิดเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่แบรนด์ดังอย่าง Gucci ให้ความสำคัญเสมอมา ดั่งหนังสือ Gucci: The Art of Silk ที่บอกเล่าเรื่องราวของผ้าพันคอไหมอันโดดเด่นของแบรนด์ โดยได้รับสิทธิ์พิเศษให้เข้าถึง Gucci Archive ซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังยุคศตวรรษที่ 15 ในเมืองฟลอเรนซ์ หนังสือเล่มนี้ได้ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของผ้าพันคอไอคอนิกนี้ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในฐานะของขวัญสำหรับ Princess Grace of Monaco ไปจนถึงการคืนชีพผ่านฝีมือของเหล่าครีเอทีฟไดเรกเตอร์แห่ง Gucci ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ Tom Ford, Frida Giannini, Alessandro Michele และ Sabato De Sarno

    “การเข้าไปสำรวจคลังแฟชั่นเป็นการฝึกฝนเชิงสังเกตและการตีความอย่างไม่รู้จบ คลังผ้าพันคอเป็นดั่งการเปิดหนังสือนิทาน..” — Gucci: The Art of Silk

    ในแต่ละหน้า ผู้อ่านจะได้ค้นพบว่าผ้าพันคอไหมของ Gucci ไม่เพียงสะท้อนเรื่องราวของ House แต่ยังมีบทบาทสำคัญในเส้นทางของแบรนด์ Gucci เอง ตั้งแต่แรงบันดาลใจของตระกูล Gucci ที่ต้องการเป็นเหมือน Medici แห่งยุคโมเดิร์น อิทธิพลจากยุคเรอเนซองส์ของเมืองฟลอเรนซ์ ไปจนถึงการสืบทอดงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถ่ายทอดผ่านภาพถ่ายที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนจาก Gucci’s ateliers หนังสือเล่มนี้ยังพูดถึงพลังแห่งเซเลบริตี้และราชวงศ์ที่มีต่อแบรนด์ ตั้งแต่ Harry Styles ไปจนถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 รวมถึงบทบาทของศิลปะร่วมสมัยที่ถูกเน้นย้ำผ่านโปรเจกต์ใหม่ ’90×90‘ ซึ่งเป็นคอลเลกชันผ้าพันคอรุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน 9 ผืน จาก 9 ศิลปินผู้ล้ำสมัย

    90 X 90: 9 ARTISTS APPROACH 5 ICONIC GUCCI SCARF THEMES

    โปรเจกต์ 90 x 90 ได้รับแรงบันดาลใจจากขนาดของผ้าพันคอไหมคลาสสิก (90 ซม. x 90 ซม.) พร้อมทั้งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของ Gucci
    โดยใช้ผ้าพันคอเป็นสื่อทางศิลปะ แบรนด์ได้เชิญ 9 ศิลปิน มาตีความผ่าน 5 ธีมหลักของผ้าพันคอ Gucci
    ได้แก่ Flora, Fauna, Nautical, Equestrian และ GG Monogram ด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน ศิลปินทั้งเก้าคน Robert Barry, Everett Glenn, Sara Leghissa, Currynew, Jonny Niesche, Gio Pastori, Walter Petrone, Yu Cai และ Inji Seo
    ถ่ายทอดแนวคิดของตนเองออกมาอย่างลึกซึ้ง บางผลงานดูเสียดสี อารมณ์ขัน แต่บางชิ้นงดงามและเต็มไปด้วยอารมณ์ สะท้อนทั้งจิตวิญญาณของ Gucci และตัวตนของศิลปินเอง

    Gio Pastori

    นักวาดภาพประกอบจากมิลาน ผู้เชี่ยวชาญเทคนิค Paper Cut งานของเขาเน้นความเรียบง่ายแต่มีกลิ่นอายอาร์ตแบบคลาสสิก

    Currynew

    นักวาดภาพและนักออกแบบชาวเซี่ยงไฮ้ ที่ผสมผสาน วัฒนธรรมป๊อป ดนตรี และวิดีโอเกม เข้ากับจินตนาการส่วนตัว
    ผลงานของเขาเป็นที่รู้จักจากสีสันที่สดใสและได้รับรางวัล Hiii Illustration Award

    Everett Glenn

    ศิลปินชาวอเมริกันที่ผสมผสาน คอมิกส์ จิตรกรรม และการแสดง เพื่อสร้างสรรค์เรื่องเล่าเชิงลึก งานของเขาได้รับอิทธิพลจากคอมิกส์สไตล์ Franco-Belgian Ligne Claire โดยนำเสนอภาพกราฟิกที่มีความเข้มข้นทางอารมณ์ ผ่านการเล่าเรื่องที่สะท้อนถึงตัวตนและความทรงจำ

    Inji Seo

    ศิลปินจากโซล ผู้เชี่ยวชาญในการผสมผสาน วัฒนธรรมป๊อปกับศิลปะ เธอเคยร่วมงานกับศิลปิน EXO, NCT Dream, Red Velvet, Peggy Gou และ Rina Sawayama รวมถึงแบรนด์ระดับโลกอย่าง Apple, Samsung และ Nike

    Jonny Niesche

    ศิลปินชาวออสเตรเลียที่ใช้แนวคิด โรแมนติก อบสแตรกต์ และมินิมอลลิสม์ เพื่อสร้างงานศิลปะที่เล่นกับ แสง เงาและพื้นที่ ผลงานของเขาถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของออสเตรเลียและยุโรป

    Robert Barry

    ศิลปินชาวอเมริกันผู้บุกเบิกศิลปะแนวคอนเซ็ปชวล ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1960 งานของเขาสำรวจสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น คลื่นวิทยุ โทรจิต และการแสดงสด เพื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับมุมมองต่อศิลปะ เขายังใช้ “ภาษา” เป็นสื่อกลางในการสร้างเรื่องราวและกระตุ้นการตีความ ผลงานของเขาถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำ เช่น MoMA, Guggenheim และ Centre Pompidou

    Sara Leghissa

    ศิลปินอิสระชาวอิตาลีที่ทำงานด้าน ศิลปะการแสดงและศิลปะสาธารณะ โดยเน้นสร้างสรรค์ผลงานที่เชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมและกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วม เธอเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Strasse Collective ซึ่งนำเสนองานศิลปะที่ผสมผสาน โรงภาพยนตร์และการแสดงตามสถานที่ต่างๆ

    Walter Petrone (Wallie)

    ศิลปินชาวอิตาลี ผู้สร้างสรรค์ แอนิเมชัน นิยายกราฟิก และงานออกแบบสำหรับศิลปินเพลง ผลงานของเขามีทั้งมิวสิกวิดีโอ และปกอัลบั้มของศิลปิน

    Yu Cai

    นักวาดภาพประกอบและแอนิเมเตอร์ชาวจีน ที่สำรวจการดำรงอยู่ของมนุษย์ในเมืองยุคใหม่ผ่าน ศิลปะดิจิทัลและ NFT ผลงานของเธอได้รับการจัดแสดงในนิทรรศการระดับนานาชาติ

    โปรเจกต์นี้จะปรากฏอยู่ใน หนังสือ GUCCI: The Art of Silk: The Story of Gucci Scarves โดยในบทสุดท้าย โปรเจกต์ 90 x 90 ถือเป็นจุดสูงสุดของเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าพันคอไหมของ Gucci ซึ่งเชื่อมโยงระหว่าง ป๊อปอาร์ต ศิลปะชั้นสูง และแฟชั่น พร้อมทั้งเปลี่ยนผ้าพันคอให้กลายเป็นผลงานศิลปะขนาดย่อมที่ทรงคุณค่า