เพื่อรำลึกถึงคริสเตียน ดิออร์ ผู้ให้ความสำคัญต่อการเดินทางปลีกลี้หนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่สู่จุดหมายปลายทางการพักผ่อนในฝัน คอลเลกชั่นเครื่องแต่งกายลำลองสำหรับการเดินทางพักผ่อน Dioriviera ซึ่ง มาเรีย กราเซีย คิวริ เป็นผู้วางแนวทางการออกแบบ ได้รับการรังสรรค์อย่างต่อเนื่องให้จุดประกายความสุข เบิกบานใจไปกับการ “รับพลัง” กลางแดดสวย
หัวใจสำคัญของคอลเลกชั่นคือผ้าพิมพ์ลายจิตรกรรม toile de Jouy (ตวล เดอ ฌูย) ซึ่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำแผนกเครื่องแต่งกายสตรีได้นำกลับมาดัดแปลง และพัฒนาใหม่สู่แพรพรรณหลากเนื้อสัมผัส รองรับงานออกแบบลวดลายใหม่ยกผืนสำหรับตัดเย็บ และสรรค์สร้างผลงานต่างรูปลักษณ์จนกลายเป็นที่รู้จัก และจดจำในฐานะสัญลักษณ์ประจำ House of Dior
ในคอลเลกชั่นล่าสุด “ตวล เดอ ฌูย” ได้รับการออกแบบลวดลายใหม่ถึงสองรุ่น ประกอบไปด้วย Toile de Jouy Sauvage (ตวล เดอ ฌูย โซวาจ) ตั้งชื่อตามความหรูหราของพงไพรธรรมชาติ และ Toile de Jouy Soleil (ตวล เดอ ฌูย โซเลย์) สะกดสายตาด้วยลวดลายดวงอาทิตย์กับหมู่ดาวบริวาร ร่วมกับลูกเล่นสีสันสดใสรื่นรมย์สายตาจากน้ำเงินกรมท่าสู่สีส้มปะการัง จากสีเขียวน้ำทะเลสู่สีชมพูนวลแป้ง และสีเหลืองมะนาว เพื่อนำมาใช้ตัดเย็บเครื่องแต่งกายหลากมิติทรง ไม่ว่าจะเป็นเดรส, กระโปรง, เสื้อกระดุมหน้า และเสื้อแขนกุด อำนวยต่อการเลือกจับคู่สวมใส่ได้ตามอารมณ์ปรารถนา ทั้งกับเครื่องแต่งกายลวดลายเดียวกัน หรือชุดลำลองฤดูร้อนต่างสไตล์
ผ้าพิมพ์ลายใหม่ทั้งสองรุ่นจะยังมอบความครบครันให้กับลุคการแต่งกายชายหาดผ่านเครื่องประดับหลากสไตล์ ทั้งผ้าคลุมไหล่แบบปอนโช, ผ้าปูรองนั่งแบบฟูตาห์ และผ้านุ่มแบบปารีโอ รวมถึงผ้าพันคอทอไหม ซึ่งยังเพิ่มตัวเลือกด้วยงานพิมพ์ลายตารางฟันสุนัขหรือ houndstooth (ฮาวน์ดสูทูธ) อันทรงแบบฉบับแล้ว ก็ยังมาปรากฏบนกระเป๋าถืออันเย้ายวนชวนปรารถนาให้ครอบครอง ทั้งรุ่น Lady D-Lite กับ Dior Book Tote bags และมอบความสดใหม่ ชวนตื่นตากับลูกเล่นกระเป๋าสาน Lady D-Joy เพื่อเป็นบทเติมเต็มความงามสง่าให้แก่ลุคการแต่งกายสไตล์เมอดิเตอเรเนียน ที่มาของเสน่ห์หรูหราแบบฉบับ Dioriviera จากใบเรือมาสู่หมวกสาน รองเท้าหนังสาน Dior Sun กับ Dway รองเท้าแตะยกพื้นตกแต่งโลโกสัญลักษณ์ Christian Dior ล้วนอำนวยต่อการสวมใส่ได้กับทุกลุค และความครบครันแห่งอาณาจักรชวนฝัน หาได้จำกัดอยู่แค่เครื่องแต่งกาย ทว่ายังขยายผลไปสู่ของที่ต้อง-มีประจำฤดูร้อน อย่างเสื่อโยคะ, ร่ม และเก้าอี้ชายหาด ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ ตกแต่งบ้าน, ภาชนะประจำโต๊ะอาหาร และหมอนปัก เพื่อเป็นบทสรุปวิถีการดำเนินชีวิตแสนหวานปราศจากกังวลแบบฉบับคริสเตียน ดิออร์
คอลเลกชั่นอันเป็นตัวแทนศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต พร้อมวางจำหน่ายในบูติกประจำรีสอร์ท และป๊อป-อัพสโตร์สาขาต่างๆ จาก Cannes Nammos ถึง D-Maris จากฮาวายสู่ซันยา ท่ามกลางงานออกแบบตกแต่งเพื่อสะท้อนถึงภาพมิติแห่งการพักผ่อนทางกลางบรรยากาศหรูหราริมทะเลด้วยงาน
ประติมากรรมสัตว์ป่าขนาดเท่าของจริงประดับลวดลายด้วยเปลือกหอย เรื่องราวการเดินทางของ Dior ได้รับการจารึกบทใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อจุดประกายความสุข และเป็นตัวแทนความวิจิตรบรรจงของศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต