Monday, December 9, 2024
More

    เจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จของ เดน่า มัจฉา และแอล สามนางแบบรุ่นใหม่ภายใต้ลุคสวยของคอลเลกชั่น CRUISE 2024/25 จาก CHANEL

    on

    - Advertisement -

    ฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ประเทศไทย มีโอกาสได้พูดคุยกับสามสาว เดน่า มัจฉา และแอล สามนางแบบรุ่นใหม่ที่มาเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลสำหรับปกนิตยสารฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ประเทศไทย ฉบับเดือนพฤศจิกายน ถึงเรื่องราวเส้นทางการเป็นนางแบบของพวกเธอและการถ่ายทอดลุคสวยของคอลเลกชั่น CRUISE 2024/25 จาก CHANEL

    CHANEL คอลเลกชั่น CRUISE 2024/25 คอลเลกชั่นที่ได้แรงบันดาลใจจากเสน่ห์และความมีชีวิตชีวาของเมืองมาร์เซย รวมถึงการผสมผสานเรื่องราวของโลกใต้ทะเลและสถาปัตยกรรมโมเดิร์นที่สื่อผ่านการใช้วัสดุและลวดลายที่บ่งบอกความเป็นชาเนลได้อย่างเต็มเปี่ยม อย่างผ้าทวีดในรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการปักตกแต่งที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญของเมซง

    โดดเด่นด้วยวัสดุที่เน้นความโปร่งสบาย พร้อมการเล่นเฉดสีที่มีความสดใส ตัดกับลวดลายที่มีชีวิตชีวาอย่างลายปักรูปปลา รวมถึงรายละเอียดที่สะท้อนเอกลักษณ์เมืองท่าของมาร์เซย อาทิ สร้อยคอที่เป็นรูปอวนจับปลา เปลือกหอยทะเลที่ตกแต่งอยู่บนเสื้อ จิวเวลรี่รูปปลาที่มีดีเทลน่าสนใจ ไปจนถึงความงามของงานปักที่ประณีตเพื่อสะท้อนถึงความสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติของผู้หญิงในแบบฉบับของ CHANEL

    HBZ: อยากให้เดน่าช่วยเล่าเส้นทางการเป็นนางแบบได้ไหมว่าเริ่มต้นได้อย่างไร

    Dana: จริงๆ เดน่าเริ่มเป็นนางแบบมาตั้งแต่ก่อนเรียนจบแล้วค่ะ แต่พอหลังเรียนจบมหาวิทยาลัยก็เริ่มจริงจังค่ะ เพราะว่าคุณพ่อและคุณแม่บอกว่าถ้าจะเป็นนางแบบก็ขอให้เรียนให้จบก่อนค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มทำงานที่ฮ่องกงก่อนในช่วงแรก หลังจากนั้นก็ย้ายมาเมืองไทยเพราะว่าคุณแม่เป็นคนไทยค่ะ อยู่ดีๆ ก็มีคนจากรายการ Asia Next Top Models มาติดต่อ ก็เลยลองสมัคร และก็ได้เป็นผู้ชนะในซีซั่นที่ 6 ก็เลยเดินสายนี้ต่อมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันค่ะ

    HBZ: ในความคิดของเดน่าแล้ว อะไรคือความท้าทายที่สุดในการเป็นนางแบบ

    Dana: “ความอดทน” ค่ะ เพราะเวลาเราถ่ายแบบมันใช้เวลานานมาก การแคสติ้ง ช่วงแฟชั่นวีคที่เราต้องวิ่งงาน แล้วในขณะเดียวกันเราก็ต้องมีความรับผิดชอบสูงมากๆ ค่ะ

    HBZ: เวลาเราพูดถึง CHANEL เดน่านึกถึงอะไร

    Dana: ความอมตะ ความคลาสสิก คือแม่ของเดน่ารักชาเนลมาก แม่ใส่แจ็คเก็ตทวีดตั้งแต่เดน่ายังเด็ก และก็ยังมีกระเป๋าใบที่เดน่าชอบ ทุกครั้งที่เดน่ามองไปที่กระเป๋าของแม่ เดน่าก็ยังคงรู้สึกว่ามันยังไม่เคยตกเทรนด์เลยซักครั้ง หรือจะเป็นโชว์ทุกครั้งของแบรนด์ เดน่ารู้สึกว่ามีความเป็นตัวตนแบรนด์อยู่ชัดเจน แม้ว่าความคิดของคอลเลกชั่นมันจะก้าวหน้ามากๆ

    HBZ: คนมักจะคิดว่าการเป็นนางแบบเป็นสิ่งที่ง่าย ช่วยอธิบายถึงความลำบากได้ไหมว่ามีอะไรบ้าง

    Dana: เดน่ามักจะบอกทุกคนว่าอาชีพนางแบบต้องเป็นผู้ฟังที่ดีให้มาก ทั้งการฟังบรีฟจากช่างภาพ ฟังความต้องการของดีไซเนอร์ และเราต้องรวบรวมความต้องการทุกอย่างของแต่ละคนเพื่อสื่อสารออกมาให้ดีที่สุด บางครั้งที่เดน่าถ่ายแบบ ช่างภาพและดีไซเนอร์มีความต้องการที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาก เดน่าเลยต้องเอาความต้องการของทั้งสองคนมาเจอกัยตรงจุดตรงกลางแล้วทำมันออกมาให้ดีที่สุด

    HBZ: คิดว่าระหว่างเดน่ากับชาเนลมีอะไรที่เชื่อมโยงกันไหม

    Dana: ชาเนลโอบกอดประวัติศาสตร์และเรื่องราวของตนเอง เหมือนเดน่าที่เอาสไตล์และความสามารถของคุณแม่ที่เป็นนางแบบเหมือนกันในยุค 80s มาปรับใช้ในรูปแบบของตัวเอง เหมือนกับแบรนด์ชาเนลที่นำเรื่องราวและมรดกของรุ่นก่อนหน้ามาปรับในสไตล์ปัจจุบัน อย่างเวลาเดน่ามองดูรูปคุณแม่ตอนเป็นนางแบบมาปรับใช้กับตัวเอง

    HBZ: คิดว่าแฟชั่นมีขีดจำกัดสำหรับผู้คนยุคใหม่หรือไม่

    Dana: แน่นอนว่าไม่ค่ะ เพราะคุณอยากสื่อสารตัวตนอย่างไร คุณสามารถทำได้เลย ทุกคนทดลองสิ่งใหม่ๆ ผ่านการแต่งตัวเสมอ ซึ่งเดน่าชอบมากๆ มันสนุกดีค่ะ

    HBZ: หลังจากที่ได้สวมใส่เสื้อผ้าคอลเลกชั่นครูซ 2025 รู้สึกอย่างไรบ้าง

    Dana: เดน่ารู้สึกสนุกมากค่ะ สีสัน รายละเอียด มันทำให้รู้สึกถึงความสดใส และรายละเอียดของเสื้อผ้าก็น่าทึ่งมากค่ะ ทั้งงานปัก กระดุม อย่างจิวเวลรี่เข็มขัดที่ใส่อยู่มันมีความหมายหมดเลยในทุกลวดลาย ซิลูเอตก็ใส่สบายมากค่ะ จนอยากใส่ทุกๆ วันเลย

    HBZ: มัจฉาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนางแบบยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จ เรารู้สึกอย่างไรกับประโยคนี้

    Matcha: คือมัจฉาเริ่มเป็นนางแบบตั้งแต่อายุ 14 ก็สิบเอ็ดปีแล้วค่ะ รู้สึกว่าเปลี่ยนไปมากเลยตั้งแต่ตอนเริ่มต้น อย่างก่อนโควิดก็จะเป็นช่วงที่แฟชั่นโชว์เยอะมาก ถ่ายลงนิตยสารบ่อยมาก แต่พอเปลี่ยนผ่านมาสู่ช่วงยุคดิจิทัลทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป รู้สึกว่าความน่าสนใจในอาชีพนางแบบมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่คำพูดนี้เอาเข้าจริงรู้สึกดีใจค่ะที่ได้โอกาสในการทำงานหลากหลายอย่างด้วย

    HBZ: นอกจากอาชีพนางเเบบเเล้วเรายังเป็นศิลปินด้วย อะไรที่ทำให้เราอยากลองเดินเส้นทางนี้

    Matcha: ก็จริงๆ ชอบมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะกับการร้องเพลง มัจฉาเริ่มเข้าวงการมาจากการเป็นนางแบบถ่ายเสื้อผ้า ถ่ายโฆษณา เล่นละครและซีรีส์ จนได้มีโอกาสไปออดิชั่นค่าย White Fox ก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ เพราะเราชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ก็ไม่คิดค่ะว่าในวันหนึ่งจะได้ทำเป็นอาชีพจริงจรัง แล้วบวกกับวิสัยทัศน์ที่ทางค่ายมีก็ตรงกับสิ่งที่เราอยากทำอยู่แล้วด้วย

    HBZ: จำได้ไหมว่าเรารู้จัก CHANEL จากอะไร

    Matcha: โอ้ววว… คือชาเนลเป็นแบรนด์ที่รู้จักตั้งแต่เด็ก จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่ เพราะคุณแม่คือใช้กระเป๋าชาเนลตั้งแต่มัจฉาจำความได้อะค่ะ รู้ว่าชาเนลเป็นสิ่งที่ท็อปตลอดและมีมูลค่าทางใจสูงมาก

    HBZ: พูดถึง CHANEL นึกถึงอะไร

    Matcha: COCO CHANEL ค่ะ มัจฉารู้สึกว่าเขาเป็นไอคอนมากๆ ความชิค ความล้ำสมัยในยุคก่อน เพราะเหมือนสไตล์ของเขา ณ ขณะนั้นมันล้ำมาก และดีไซน์ของเขาก็ยังส่งผลมาถึงปัจจุบันที่โมเดิร์นขึ้น

    HBZ: มุมมองสำหรับแฟชั่นกับคนยุคใหม่เป็นอย่างไรบ้าง

    Matcha: เรารู้สึกว่าแฟชั่นมันน่าสนใจมาก มันเห็นอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ แล้วเทรนด์เนี่ยสำคัญมากๆ อย่างตอนนี้กระแสความวินเทจมันกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คนก็กลับไปให้ความสนใจ แล้วเทรนด์มันยังแปรเปลี่ยนไปตามความนิยมของคนตลอดเวลาค่ะ

    HBZ: หลังจากที่มัจฉาได้เห็นครูซคอลเลกชั่นที่เราใส่วันนี้ มัจฉารู้สึกอย่างไร

    Matcha: มัจฉารู้สึกว่าคอลเลกชั่นนี้มีกลิ่นของความเป็น “Modern French” มากเลยค่ะ สีสันคัลเลอร์ฟูลมาก เสื้อผ้าดูสนุกแต่ยังคงหรูหรา ดีเทลเขาฉลาดมากอย่างการตัดต่อแขนเชิ้ตเข้ากับแจ็คเก็ตทวีด เหมือนเรามิกซ์แอนแมตช์มาแล้วโดยที่เราสามารถใส่ได้เองเลยค่ะ หนูรู้สึกว่าเขาแน่นไปด้วยดีเทลทุกจุดจริงๆ ค่ะ

    HBZ: ช่วยเล่าเส้นทางในสายนางแบบของตัวเองให้เราฟังได้ไหมว่าเริ่มต้นมาได้อย่างไร และอะไรที่ทำให้เราสนใจในสายอาชีพด้านนี้

    Elle: จริงๆ ตั้งแต่เด็กเลย แอลดูโชว์ Victoria Secret กับคุณแม่ แล้วช่วง Halloween แอลแต่งเป็นนางแบบวิคตอเรียซ้ำกันหกปีเลย แล้วพอแอลกลับมาไทยคนก็ถามแอลว่า “เป็นนางแบบหรือเปล่า” แอลงงค่ะ (ฮ่าๆ) ว่าเป็นนางแบบคืออะไร จนหนูไปเดินสยาม แล้วเจอพี่เอ (AKIZ Management) พี่เอเดินเข้ามาทักแล้วบอกชอบหน้ามาก หน้าเก๋ ตัวสูง ยังเด็ก ก็เลยเซ็นสัญญาตรงนั้นเลยค่ะ แอลจำได้ว่าที่ห้างสยามพารากอน

    HBZ: มีเหตุการณ์ไหนในการเป็นอาชีพนางแบบที่เราจำได้ไม่ลืม

    Elle: น่าจะแฟชั่นวีคที่มิลานค่ะ โมเดลทั่วโลกจะมาถึงล่วงหน้าสามวันก่อนเริ่ม แล้วทุกอย่างจะวุ่นวายมาก ต้องเดินทางไปครึ่งชั่วโมง เดินทางไปแคสติ้งวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าสิบโชว์ค่ะ แล้วแต่ละโชว์ต่อแถวไม่น้อยกว่า 2-3 ชั่วโมง ซึ่งทุกคนเป็นท็อปโมเดลหมด

    HBZ: แอลจำความรู้สึกตอนนั้นได้ไหม

    Elle: จำได้ค่ะ ตอนนั้นแอลไปเจอดีไซเนอร์ดังเยอะแยะมาก แล้วยิ่งเราแบบเป็นสาวไทย ฝรั่งก็ไม่ใช่ จะหน้าเอเชียก็ไม่เชิง แล้วก็ตอนแคสติ้งเราเจอนางแบบที่เราชอบเขามาตั้งแต่เด็กหมดเลย Vittoria หรือ Naomi ที่เราปลื้มแต่เด็ก เราใจสั่นมาก แล้วตอนนั้นแอลอายุ 18 เองค่ะ

    HBZ: มุมมองของเราที่เป็นคนยุคใหม่ที่มีต่อวงการแฟชั่น เรามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

    Elle: แอลรู้สึกว่าแฟชั่นเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากค่ะ เรารู้สึกว่ามันเปิดโลกให้เจอสิ่งใหม่มากๆ บางอย่างที่เราคิดว่าเราไม่น่าใส่ได้เราก็ใส่ได้ ทำให้ได้ค้นพบตัวเองในมุมใหม่ๆ

    HBZ: รู้สึกอย่างไรเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าของชาเนลในคอลเลกชั่นครูซ 2025

    Elle: แอลรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่ชิคมาก มีความ Elegance แต่ในเวลาเดียวมีความหวานปนน่ารัก ชุดมีความเรียบง่ายแต่ทุกคนก็จะรู้ว่านี่คือ CHANEL

    HBZ: ทุกครั้งที่ได้ใส่ CHANEL เรามีความรู้สึกอย่างไร

    Elle: ในมุมมองของแอลนะคะ แอลรู้สึกว่าทุกชิ้นของเขามีออร่า ดีไซน์อมตะ และมีพลังบางอย่างที่ส่งออกมา ซึ่งคนจะสัมผัสได้ว่านี่คือชาเนล