ผลงานยูเรนัส 2324 ที่กำลังฉายในขณะนี้จัดเป็นบทท้าทายความสามารถของศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงด้วยบทบาทหลายคาแรกเตอร์ที่ต้องเข้าถึง “ในภาพยนตร์จะมีหลายโลกหลายมัลติเวิร์สมาก เกี่ยวกับหลายจักรวาลรวมกัน บทของฟรีนจะเป็นลินรดา ที่มีความฝันเกี่ยวกับอวกาศ แล้วทำฝันนั้นได้จริง คาแรกเตอร์จะมีหลากหลายจึงต้องเล่นให้ไม่คล้ายกันเลย ที่ยากอีกอย่างบทลินรดาเป็นนักบินอวกาศ พูดภาษาอังกฤษหมด สวมชุดอวกาศและต้องมีการขึ้นสลิงที่ต้องคอนโทรลทั้งชุดและร่างกายของตัวเองด้วย ต้องทำท่าทางให้เข้าถึงความเคลื่อนไหวที่ไร้แรงโน้มถ่วง เรียนเวิร์คชอปใหม่หมดเลยค่ะ มีการเรียนดำน้ำเพิ่มเติมทุกอย่าง ประสบการณ์ที่ได้รับจากภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างเยอะมากๆ ทีเดียว”


“ถ้าให้เลือกของ 3 สิ่งที่จะต้องพกติดตัวไปในวันที่มนุษย์โลกจะต้องอพยพเหรอคะ หนูขอหยิบหมอนเน่าไปก่อน (หัวเราะ) รู้สึกว่าถ้ามีหมอนเน่าน่าจะทำให้การนอนดีขึ้น หนูมีหมอนเน่ามาตั้งแต่สองขวบ อย่างที่สองหนูขอเป็นน้องหมาของฟรีนพันธุ์ดัชชุน ขึ้นยานไปด้วยกันจะได้มีความสุขด้วยกันค่ะ (ยิ้ม) และแน่นอนว่าต้องมีคุณแม่ค่ะ อุ่นใจชัวร์”



“แนวคิดในการดำเนินชีวิตของฟรีนตอนนี้หนูรู้สึกว่าชีวิตสั้นมาก รู้วันเกิดแต่ไม่รู้วันตาย ไม่รู้จะได้ทำหรือมีโอกาสอะไรเข้ามาในชีวิตบ้าง เลยรู้สึกว่าเราไม่ควรมองข้ามอยากทำอะไรก็ทำ อยากมีความสุขแบบไหน อยากมีชีวิตแบบไหนหรือว่าต้องการอะไรก็ทำไปเลย ไม่อยากพลาดโอกาสที่ได้มา เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เมื่อมีความท้าทายเข้ามาในแต่ละวันก็ก้าวผ่านไปให้ได้ ให้มีความสุขในทุกวัน ทุกวันที่ทำจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นการพัฒนาตัวเองไปในตัว หนูทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษาปีที่สอง ช่วงนั้นคุณป้าเสียแม่ต้องกลับไปต่างจังหวัด จึงอยู่คนเดียวกับคุณย่าเลยรู้สึกว่าจุดเปลี่ยนของหนูมีทุกช่วงอายุ เริ่มคิดได้ว่าถึงเวลาต้องทำงานแล้ว แม่จะได้ไม่ลำบาก ก็เริ่มขายของในอินเทอร์เน็ต เป็นของกระจุกกระจิกน่ารักๆ แล้วก็เปลี่ยนของขายไปเรื่อยๆ จนตอนเรียนมัธยมศึกษาปีที่สามถึงได้เริ่มเข้าวงการบันเทิง ถ่ายแบบก่อน ถึงได้ค้นพบว่าตัวเองก็ทำงานด้านนี้ได้นะ ซึ่งการทำงานทำให้ฟรีนโตขึ้นเรื่อยๆ มีความสุขกับการได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในทุกวันคือการเก็บเกี่ยวความสำเร็จของชีวิต ไม่คิดว่าจะต้องมายืนจุดนี้ด้วยซ้ำ ทำตัวเองให้ดีที่สุดตามแต่ละจังหวะชีวิต พอได้เกินความคาดหมายคือกำไรของชีวิตแล้ว ถ้าให้เปอร์เซ็นต์ในความสำเร็จ หนูคิดว่าประสบความสำเร็จทุกวัน ทุกวันคือ The Best Day ไม่รู้ว่าเป้าหมายของคนส่วนใหญ่คืออะไร แต่รู้สึกว่าฝันของตัวเองไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น อยากกินข้าวให้อิ่ม นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง บางทีเป้าหมายของเราอาจจะคือการเก็บสะสมแต้มการทำงานไปเรื่อยๆ แล้วจะใหญ่ขึ้นเอง”

“แฟชั่นในความคิดของฟรีนคืองานศิลปะ ความไม่ถูก ความไม่ผิด แล้วแต่มุมมองความคิดของแต่ละคน แฟชั่นอยู่ทุกที่ ทุกสิ่งที่เจอ ธรรมชาติ เสื้อผ้า หน้าผม ตามแต่สไตล์ของใครแล้วแต่ความชอบ แฟชั่นจึงเป็นงานศิลปะของทุกคน ลุคในชีวิตประจำวันกับลุคทำงานของฟรีน ไม่เหมือนกันเลยค่ะ วันที่ออกอีเวนท์หรือทำงานจะมีทั้งหน้าผมชุดที่ช่วยทำให้ดูดีขึ้น สวยขึ้นตามแต่ละลุค ซึ่งลุคในวันปกติจะหน้าเปลือยเลย สดมาก ผมไม่ทำ หน้าไม่แต่ง ใส่เสื้อง่ายๆ กางเกงง่ายๆ รองเท้าแตะหนึ่งคู่อะไรแบบนี้ ชิลมาก ทำงานแต่งหน้าทำผมทุกวันแล้ว อยากปล่อยชีวิตปล่อยใจจอยๆ”

“สำหรับสไตล์ของ Saint Laurent มีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ได้ใส่ลูกเล่นเยอะ ซึ่งคิดว่าลิงค์กับแอทติจูดอาชีพการเป็นนักแสดง ศิลปิน นางแบบ ของตัวเองตรงที่ฟรีนจะเป็นคนไม่ค่อยได้แสดงออกทางร่างกายเยอะ จะออกจากอินเนอร์หรือสายตามากกว่า ซึ่งกลายเป็นว่าสิ่งนี้เป็นลายเซ็นของฟรีน เป็นโลโก้ของฟรีน ชิ้นโปรดของ Saint Laurent มีกระเป๋าหลายใบค่ะ รู้สึกว่าเป็นสไตล์ที่เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย แต่งสไตล์ไหนก็สามารถแมตช์เติมเต็มโททัลลุคได้ทุกอย่าง ด้วยแฟชั่นของตัวเองในแต่ละวันไม่ได้ตะโกน เน้นเรียบๆ ก็เก๋แล้ว”
