ในวันที่นวัตกรรมความงามได้เดินหน้าไปพร้อมกับการใช้เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว คงเป็นเสมือนการขึ้นทางด่วนให้สามารถถึงที่หมายอย่างง่ายขึ้น แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าสถานความงามแห่งไหนที่แวะเวียนไปจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
วันนี้บาซาร์ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนึ่งในแพทย์ผู้ช่วยชาญด้านการรักษาหลุมสิวและแก้ไขสภาพผิวอย่าง นพ. ขุนคีรี รังษีวงศ์ หรือหมอขุน แพทย์ผู้ก่อตั้ง BetterKhun Clinic ด้วยประสบการณ์การทำงานในด้านผิวหนังและการรักษาหลุมสิวมาเป็นเวลายาวนาน หลายคนจึงมักจะคุ้นชื่อหมอขุนหลุมสิว ด้วยทักษะและเทคนิคการเลาะพังผืดแบบฉบับของตัวเอง และมาร่วมอัพเดทถึงนวัตกรรมใหม่ที่มักจะถูกใช้บ่อยๆ ในช่วงนี้ ซึ่งไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับคุณหมอ แต่คนไข้ทุกรายจาก BetterKhun Clinic จะได้เข้ารับการวิเคราะห์ถึงปัญหาแบบเจาะลึก โดยมีแผนการรักษาที่ปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของคนไข้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นจุดเด่นและเป็นใจความสำคัญที่สร้างความมั่นใจได้ว่าทุกๆ ปัญหาจะถูกแก้ไขได้แบบรายบุคคลและตรงจุดอย่างแท้จริง



ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงการเปลี่ยนผิวและสร้างคอลลาเจนที่หายไปให้กลับมาใหม่ด้วยการใช้ AestheFill หรือ Collagen Biostimulator ที่เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วย Poly L-Lactic Acid ที่ USFDA ที่กระตุ้นการสร้างใหม่ของคอลลาเจนได้นานถึง 2 ปี
จะรู้ได้อย่างไรว่าผิวต้องการ AestheFill ?
เริ่มต้นง่ายๆ จากการมีอายุขึ้นเลข 3 และเริ่มพบกับปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ หรือหากใครที่พบกับปัญหาหลุมสิวที่แก้ไม่หายขาดเสียที
ข้อดีและข้อเสียของการใช้ AestheFil
ข้อดีของการใช้ AestheFill คือการสร้างคอลลาเจนแบบถาวร แม้ตัวยาจะสลายไปใน 2 ปีก็ตาม รวมถึงเป็นหนึ่งใน Collagen Biostimulator ที่มีโมเลกุลเล็กมากเพื่อลดการเกินก้อน ส่วนข้อเสีย คือการใช้เวลารอกว่าที่จะเห็นผลนาน 1-2 เดือน เพราะเป็นการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา

AestheFill และ ฟิลเลอร์ ควรเลือกอะไรดี?
คำถามที่เราสงสัยและแน่นอนว่าเป็นคำถามที่คุณหมอพบบ่อยที่สุด ซึ่งหากจะให้อธิบายฉบับย่อ คือการใช้ AestheFill จะเปรียบเหมือนการซ่อมแซมผิวหนังด้านบน ปรับสภาพผิวให้ผิวกระชับ สุขภาพและพื้นผิวให้ดีขึ้น รวมถึงยกหน้าให้เหมือนการทำเครื่องมือยกกระชับ แต่กลับกันการ Filler จะใช้แก้ปัญหาในส่วนของโครงสร้างของใบหน้า หรือก็คือส่วนกระดูกและไขมัน จึงเหมาะกับการปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึกๆบนใบหน้า ซึ่งปัญหาของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ควรปรึกษาปัญหาที่แท้จริงกับคุณหมอเพื่อวางแผนการรักษาให้ตรงจุด
นอกเหนือจากการปรับรูปหน้าแล้ว คุณหมอขุนยังถือเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการรักษาหลุมสิวในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นการออกแบบและรักษาหลุมสิวแบบเฉพาะบุคคลด้วยโปรแกรม Totalised Scar Program ซึ่งประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มตรวจสภาพผิว การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับปัญหา ไปจนถึงการฉายแสงเพื่อช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิวสมานตัวได้เร็วขึ้น และวันนี้เลยถือโอกาสให้คุณหมอได้วิเคราะห์ปัญหาผิวของตัวเองเพื่อทำการแก้ไขเลยไปในตัว ซึ่งจากการประเมินแล้วพบว่ามีหลุมสิวและความหย่อนคล้อยของผิวอย่างเห็นได้ชัด จึงมีการวางแผนการรักษาคร่าวๆ ตามโปรแกรมที่คุณหมอแนะนำ

- เริ่มจาก Custom Scar Cutting หรือการตัดพังผืดเทคนิคพิเศษ ที่ต้องอาศัยความชำนาญที่สูงมากของแพทย์ ซึ่งที่ BetterKhun Clinic เป็นการตัดพังผืดแบบพิเศษ โดยเลาะหลุมสิวทั้งหน้าเพื่อตัดทุกชั้น ทำให้ให้ได้ผลลัพธ์ดีกว่าและมีอาการเจ็บน้อยลง

- ต่อกันที่ Totalised Vivace หรือการยิงหลุมสิวด้วยเลเซอร์คลื่นวิทยุ Microneedling RF ที่มีพลังงานสูงที่สุด หรือนับเป็นสุดยอดเลเซอร์รักษาหลุมสิวได้ผลลัพธ์ดีที่สุด สามารถรักษาหลุมสิวได้ทุกประเภท ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ปล่อยคลื่นวิทยุที่ปลายเข็มซึ่งยิงได้ลึกถึง 3.5มม. พร้อมยิงความถี่ได้ทุกๆ 0.1มม. ตัวเครื่องสามารถปล่อยแสงฟ้าและแดงที่ช่วยยับยั้งการเกิดสิวและช่วยกระตุ้นการสร้างใหม่คอลลาเจน

- ต่อด้วยการรักษาหลุมสวนด้วยตัวยาอย่าง Scar Base HA ที่ช่วยเติมใต้หลุมสิว และเพื่อไม่ให้พังผืดกลับมา รวมถึงการใช้ TCA แต้มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้ DiscoveryPico เพื่อยิงลบรอยด่างดำและเกลี่ยขอบหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายคือการ Lutronic Healite II หรือฉายแสงเพื่อช่วยลดการอักเสบหลังทำนั่นเอง
และสำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าปัญหาผิวที่เจอนั้นเป็นเรื่องไหนที่ควรถูกแก้ไขเป็นอย่างแรก สามารถเข้าไปปรึกษาหมอขุนเพื่อวางแผนการรักษาที่ถูกจุดได้ง่ายๆ ที่ BetterKhun Clinic Tel. 095-635-1962