
Aesop แบรนด์ความงามจากมหานครเมลเบิร์นที่รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ผิวกาย น้ำหอม รวมถึงแอ็คเซสเซอรี่สำหรับมุมต่างๆ ของบ้าน โดยใช้ส่วนผสมจากพืชธรรมชาติผสมผสานกรรมวิธีการสังเคราะห์ในห้องแล็บ ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว และเมื่อไม่นานมานี้ Aesop ได้เปิดตัวเอสอป ทองหล่อ (Aesop Thonglor) ซิกเนเจอร์สโตร์สาขาแรกในประเทศไทย โดยได้ร่วมงานกับ Sher Maker Studio ถ่ายทอดอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านสถาปัตยกรรม ทำให้ซิกเนเจอร์สโตร์แห่งนี้ เรียบง่ายดูสบายตา อีกทั้งยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของพืชพันธุ์ธรรมชาติอันเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เอสอป

วันนี้บาซาร์ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ซูซาน ซานโทส (Suzanne Santos) ผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ Aesop ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ ณ เมืองเมลเบิร์น ในปี 1987 ในฐานะที่เธอเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายดูแลลูกค้า (Aesop Chief Customer Officer) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลและพัฒนาบริการเพื่อมอบประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ให้แก่ลูกค้า ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาเธอเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก เยี่ยมชมดูแลสาขาใหม่ๆ ทำการฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญให้สามารถแนะนำลูกค้าได้อย่างมีมาตรฐานตามแบบฉบับของเอสอป

เราจะสังเกตได้ว่าร้านของเอสอปแต่ละสาขาทั่วโลกจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน โดยได้มีการนำศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีมาไว้ในการออกแบบสโตร์ โดยได้ร่วมมือกับศิลปิน ช่างฝีมือ และสถาปนิกในการออกแบบเพื่อความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซูซาน เผยว่า “เอสอป ได้รับแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่องจากศิลปะ โดยสร้างความร่วมมือทางวัฒนธรรมกับศิลปินในพื้นที่ แกลเลอรี หรือนักเขียนที่มีแนวคิดเช่นเดียวกับแบรนด์ ที่มุ่งมั่นใช้ชีวิตอย่างสมดุล และสำคัญที่สุดคือประสบการณ์สุดพิเศษเมื่อลูกค้าจะได้รับตั้งแต่เข้ามาภายในซิกเนเจอร์สโตร์ ซึ่งมีบรรยากาศเงียบสงบ การต้อนรับอย่างอบอุ่นของพนักงาน และผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอม”

“สำหรับเอสอป ทองหล่อ (Aesop Thonglor) ซิกเนเจอร์สโตร์สาขาแรกในประเทศไทย ลูกค้าของเอสอปจะได้สัมผัสกับประสบการณ์พิเศษตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้านกับบรรยากาศและการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมการให้คำปรึกษาเจาะลึกแบบส่วนตัวกับผู้เชี่ยวชาญพร้อมกับการทดลองผลิตภัณฑ์ และอีกมุมที่ไม่ควรพลาดคือ Fragrance Armoire ลูกค้าของเอสอปสามารถค้นพบโลกแห่งน้ำหอมและหากลิ่นซึ่งความมอบเป็นตัวตนของคุณได้ที่นี่” ซูซาน ซานโทส Chief Customer Officer ของ Aesop กล่าว

แนวคิดในการดูแลความงามของ เอสอป คือความเรียบง่าย น้อยแต่มาก การดูแลแบบมินิมัลนี้ยังเหมาะกับยุคปัจจุบันที่สภาพอากาศและมลภาวะส่งผลกระทบกับผิว ซูซาน แนะนำว่า “จริงๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และอุณหภูมิในแต่ละวัน ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงผิว ดังนั้นกิจวัตรในการดูแลผิวก็จะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน สำหรับประเทศไทยแล้วส่วนใหญ่แล้วอุณหภูมิอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส การทำความสะอาดผิวหน้าควรโฟกัสอย่างยิ่ง ควรเริ่มคลีนผิวหน้าด้วย In Two Minds Facial Cleanser จากนั้นใช้ Primrose Facial Cleansing Masque แล้วเช็ดออกโดยไม่ต้องล้างหน้าจะช่วยให้ใบหน้าสะอาดสดชื่น ตบท้ายด้วยการบำรุงด้วย Fabulous Face Oil กลิ่นของผลิตภัณฑ์ยังช่วยให้ผ่อนคลายและบรรเทาอาการคัดจมูกด้วย”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายดูแลลูกค้า Suzanne Santos ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เอสอปยังคงปรัชญาหลักคือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพให้กับลูกค้า พัฒนานวัตกรรมและสูตรผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง พร้อมทั้งวิจัยส่วนผสมและบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทั้งหมดนี้มุ่งเป้าไปที่ระบบหมุนเวียนเพื่อให้ผลิตภัณฑ์อยู่ในวงจรไม่กลายเป็นสิ่งที่ส่งผลกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ Aesop ยังตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมกับชุมชน มุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในเชิงบวก