Oligio คือทรีตเม้นท์ยกกระชับผิวหน้าและลำคอใหม่ล่าสุดอันดับ 1 จากประเทศเกาหลี เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ได้รับรางวัล ‘2024 Korea Customer Preference Index No.1’ และผ่านการรับรองจาก อย. ของอเมริกา ยุโรป และไทย นี่คือทางเลือกใหม่ของคนที่กลัวเจ็บแต่อยากสวย ซึ่งใช้เทคโนโลยีความถี่ของคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) แบบขั้วเดียว หรือ Monopolar RF ปล่อยพลังงานเจาะจงตำแหน่งทำให้เกิดความร้อนลึกที่ผิวชั้นในด้วยอุณหภูมิสูง 40-60 °C โดยส่งกระแสความถี่สูงลงถึงชั้นหนังแท้ เพื่อให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยหดตัว เกิดการยกกระชับผิว นอกจากนี้ยังมีผลช่วยเรื่องของการสลายไขมัน ช่วยให้ใบหน้าดูได้รูปยกกระชับพร้อมช่วยเรื่องของคุณภาพผิวอีกด้วย เพื่อให้คุณทำความเข้าใจถึงการทำงานและผลลัพธ์ของเครื่อง Oligio นี้ได้ดียิ่งขึ้น บาซาร์จึงมาขอคำแนะนำจาก แพทย์หญิงชาลินี เพียรธนภาคย์ หรือคุณหมอแอนนา แพทย์ผิวพรรณ และผู้บริหาร Reals Aesthetic Center เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่สนใจอยากลองสวยด้วยเครื่องนวัตกรรมใหม่นี้
ทำความรู้จักกับ Oligio
“เครื่องนี้มีนวัตกรรม Monopolar RF ซึ่งตัวนี้ข้อดีคือเวลาทำไม่เจ็บและปล่อยพลังงานเป็นคอลัมน์ หมายถึงส่งความร้อนลงไปจะกระตุ้นคอลลาเจนตั้งแต่ผิวชั้นบนฉะนั้นผลลัพธ์นอกจากยกกระชับแล้วยังได้ผิวที่เฟิร์มขึ้น คือพอทำไปปุ๊ปมันจะกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวมีความแน่นขึ้น รวมถึงรูขุมขนก็จะดีขึ้น ข้อดีอีกอย่างของตัวนี้คือไม่มีเข็ม ฉะนั้นจะไม่มีแผลเปิดใดๆ หลังทำกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ แต่งหน้าได้เลยหลังทำ หน้าไม่เป็นรอย ไม่ช้ำไม่บวม แต่อาจจะมีแดงๆอมชมพูนิดนึงหลังทำได้สำหรับบางคน
ตัว Oligio นี้จะโฟกัสที่การยกกระชับ สามารถทำได้ทั่วหน้า แก้ม กรอบหน้า รวมทั้งใช้ยกใต้ตาและเก็บเส้นริ้วรอยเล็กๆให้ดูตึงขึ้นได้ ทำให้ร่องแก้มหรือริ้วรอยตื้นๆดีขึ้นด้วย และใช้เก็บพวกกระเปาะแก้มได้ ทำหน้าผากทำกรอบหน้าได้หมด จุดเด่นที่ขณะทำแล้วเจ็บน้อยก็เพราะระหว่างทำจะปล่อยแก๊สที่เป็นคูลลิ่งความเย็นให้ผิวรู้สึกสบายและช่วยหลอกร่างกายเราทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ ทั้งลดอาการข้างเคียงจากผิวไหม้ได้ รวมทั้งลดอาการแดงและการระคายเคืองระหว่างการรักษา ซึ่งทำให้ความร้อนที่ได้จะเป็นร้อนแบบอุ่นๆที่พอทนได้ อีกทั้งเครื่องนี้ยังทำได้โดยไม่ต้องแปะยาชา หลังทำจะเห็นผลแล้วว่าหน้าดูกระชับขึ้นประมาณ 10% ส่วนที่จะชัดเจนจริงๆนั้นต้องรอให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนก่อน โดยปกติใช้เวลา 1-3 เดือน ฉะนั้นผลลัพธ์หนึ่งเดือนผิวจะเริ่มดีขึ้น แน่นขึ้น หน้าจะเริ่มดูใสขึ้น และผลลัพธ์ก็จะค่อยๆพัฒนาขึ้นจนกระทั้งเต็มที่นั่นก็คือสามเดือน
โดยทั่วไปปกติจริงๆทำปีละครั้งได้ แต่สำหรับบางคนถ้ามีปัญหากังวลมากๆสามารถทำปีละ 1-2 ครั้งได้ แต่แนะนำว่าควรรอให้เกินหกเดือนขึ้นไปก่อนเพื่อให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนให้เต็มที่ก่อนค่อยมาย้ำได้เลยค่ะ ถ้ายังรู้สึกว่าไม่พอใจในผลลัพธ์เท่าที่ควร ส่วนของผลการรักษานั้นอยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้ ความสามารถในการสร้างคอลลาเจนรวมถึงและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วย เช่นถ้าหลังทำมีการดูผิวต่อเนื่องที่ดี มีการบำรุงหรือใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ ทานอาหารเสริมพวกวิตามินซี คอลลาเจน หรือโปรตีนช่วย ก็จะยิ่งทำให้ผลการรักษาอยู่ได้นานขึ้น
เครื่อง Oligio นี้สามารถทำร่วมกับหัตถการความงามอื่นๆได้ แต่หมอแนะนำให้ทำเครื่องก่อนแล้วค่อยมาทำในกลุ่มฉีดจะดีกว่า จริงๆตัวเครื่องเราไม่ได้มีข้อห้ามอะไร แต่ในกลุ่มฉีดเช่นพวกสารท็อกซินหรือฟิลเลอร์เองเค้าจะให้เลี่ยงความร้อนหรือเครื่องมือต่างๆพวกนี้ไปก่อน แต่ถ้าฉีดมาก่อนก็ควรให้เว้นหนึ่งเดือนถึงมาทำเครื่องจะดีกว่าค่ะ เพราะความร้อนจากพลังงานจะส่งผลต่อสารที่ฉีดอาจจะสลายไปเร็วขึ้น
สำหรับเคสที่เหมาะกับการทำ Oligio นี้นะคะ คือคนที่มีความกังวลเรื่องกรอบหน้าอยากให้มีความกระชับ มีแก้มเยอะ กังวลเรื่องไขมันสะสมนิดหน่อย เพราะตัวนี้ช่วยสลายไขมันสะสมได้เล็กน้อยและมอบความกระชับจากผิวข้างใน ทำให้ผิวมีความแน่น หน้าจึงดูได้รูปมากขึ้น และในคนที่กลัวเจ็บที่ทำเครื่องอื่นไม่ไหว ตัวนี้จะชิลมาก อีกข้อดีคือไม่ต้องพักหน้า สามารถมาทำตัวนี้ได้โดยไม่ต้องแปะยาชา ทำเสร็จไปงานต่อได้เลย หรือสำหรับคนที่หน้าอาจจะขาดวอลุ่มแล้วคิดว่าตัวเองจะเหมาะไหม ก็สามารถมาทำได้ค่ะ เพราะหมอจะดีไซน์พลังงานโฟกัสที่การกระตุ้นคอลลาเจน ก็จะทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น”
Bazaar try out!
ประสบการณ์ในการลองทรีตเม้นท์ Oligio ในครั้งนี้ถือว่าน่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ด้วยการบอกกล่าวว่าทำแล้วชิลไม่เจ็บเลยและเห็นผลได้ส่วนหนึ่งหลังทำ และไม่ต้องเสียเวลาแปะยาชาใดๆ ก่อนลงมือจะมีการทาเจลที่ผิวก่อนซึ่งเจลนี้มีส่วนผสมที่มอบความชุ่มชื้นจึงช่วยถนอมผิวไปด้วยขณะทำ ลดการอักเสบและปลอบประโลมผิวไปในตัว ในช่วงปล่อยพลังงานก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร แต่อาจจะมีบางบริเวณที่รู้สึกจี๊ดหน่อยๆแต่ก็ทนไหว โดยบริเวณที่หมอเน้นให้ก็คือบริเวณใต้ตาที่มีริ้วรอย กรอบหน้า และช่วงแก้ม เพื่อช่วยให้การยกกระชับให้ผิวแน่น
ใช้เวลาโดยรวมก็ประมาณ 30 นาที ในระหว่างที่ทำไปครึ่งหน้า หมอให้ดูกระจกและเห็นได้เลยว่าหน้าครึ่งที่ทำไปนั้นดูลิฟท์ขึ้นจริง และพอหลังทำทั้งหน้า แล้วถ่ายรูปเปรียบเทียบเห็นเลยว่าใบหน้าโดยรวมดูมีความยกขึ้น ทำให้รู้สึกแฮปปี้มาก เกิดความมั่นใจเลยว่าหลังจากนี้ไปอีกสามเดือนโครงหน้าจะต้องดูชัดและยกกระชับขึ้นอย่างแน่นอน
ในส่วนเรื่องราคา ก็ไม่แรงเท่ากับราคาคอร์สของการยกกระชับด้วยเครื่องอื่นๆ เป็นราคาที่พอรับได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกด้วย สำหรับบาซาร์แล้วสำหรับคนที่อยากสวยแต่กลัวเจ็บตัวอย่างมาก Oligio ถือเป็นอีกออพชั่นความงามที่น่าสนใจ
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรึกษาคุณหมอแอนนาได้ที่ Reals Aesthetic Center โทร. 098 626 2693 ตั้งอยู่ที่ Woodberry Common ชั้น 4 ซอยร่วมฤดี ใกล้ BTS เพลินจิต
Photos Imaxtree, Reals Aesthetic Center